xs
xsm
sm
md
lg

หน.อุทยานฯ ดอยสุเทพเผยแก๊ง จยย.วิบากแอบซิ่งเส้นทางธรรมชาติยังไม่ยอมแสดงตัวรับผิด-เล็งแจ้งความเอาผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยเผยยังไร้เงาแก๊งรถจักรยานยนต์วิบากลักลอบฝ่าฝืนเข้าขับขี่เส้นทางศึกษาธรรมชาติเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อยอมรับผิดและให้เปรียบเทียบปรับ ชี้ชัดผิด พ.ร.บ.อุทยานฯ หากยังดื้อจ่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี


ความคืบหน้ากรณีพบว่ามีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากนับสิบคนลักลอบขับขี่จักรยานยนต์วิบากเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 66 ซึ่งพลเมืองดีได้แจ้งเบาะแสพร้อมหลักฐานเป็นภาพบันทึกเหตุการณ์ให้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และอุทยานฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์วิบากเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 47 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 โดยหากไม่ให้ความร่วมมืออาจมีความผิดเพิ่มตามมาตรา 51 ไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

วันนี้ (24 ก.ค. 66) รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดทางกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากที่ลักลอบขับขี่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ยังไม่ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ทำการเปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด ขณะที่ทางอุทยานฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการลักลอบขับขี่รถจักรยานยนต์วิบากหรือรถจักรยานยนต์ปีนเขาเข้าพื้นที่หวงห้ามในเขตอุทยานอย่างเด็ดขาด เนื่องจากอาจสร้างความเสียหายและผลกระทบต่อระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ทั้งพืชพันธุ์และสัตว์ป่าของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย


นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบาะแสและหลักฐานที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ตรวจสอบแล้วพบว่าจุดที่กลุ่มรถจักรยานยนต์วิบากขับขี่ตามภาพที่ปรากฏนั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้มีการทำกิจกรรมดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งกรณีนี้ได้ประกาศผ่านทางโซเชียลมีเดียเพื่อให้โอกาสผู้กระทำความผิดเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับแล้ว แต่หากไม่ให้ความร่วมมืออาจมีความผิดเพิ่มเติม ตามมาตรา 51 ไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม จนถึงล่าสุดยังไม่มีผู้ติดต่อเข้ามาพบเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด และหากยังไม่ยอมเข้าพบอาจมีความจำเป็นต้องนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้อยากเน้นย้ำว่าการกระทำลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เป็นแหล่งพืชพันธุ์หายากและสัตว์ป่า ทั้งจากเสียงดังหรือการทำลายสภาพพื้นที่ดั้งเดิมจากการบุกตะลุยเข้าไปของรถ จึงเป็นกิจกรรมต้องห้ามอย่างเด็ดขาดและมีความผิด ซึ่งปกติทางเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนอย่างเข้มงวดเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะไม่เพียงพอเนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่มีเส้นทางลำลองเข้าออกได้จำนวนมาก โดยอนาคตเตรียมพิจารณาเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจตราและป้องกันการกระทำผิด


รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยมีพื้นที่กว่า 160,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง หางดง แม่ริม และแม่แตง โดยมี 11 ตำบล 55 หมู่บ้านอาศัยอยู่รอบอุทยานฯ จึงมีเส้นทางเข้าสู่อุทยานฯ จำนวนมาก และยากที่เจ้าหน้าที่จะดูแลได้ทั่วถึง ทำให้มักจะมีกลุ่มรถจักรยานยนต์วิบากและปีนเขาลักลอบขับขี่กันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-10 คัน เข้าไปในเขตอุทยานฯ อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงวันหยุด ส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความชอบส่วนตัวในการผจญภัยและความท้าทาย




กำลังโหลดความคิดเห็น