อุทัยธานี – “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.ดัง เปิดสนามข้างบ้าน นำทีมตัดริบบิ้นเปิดการแข่งขันขี่ม้าคาวบอยครั้งแรกของอุทัยฯ พร้อมย้ำเตือนนักกีฬายันนักการเมือง ต้องเคารพกฎ/กติกา-การตัดสินของกรรมการ บอก..“ถ้าไม่ชอบกติกา อย่าลงมาแข่ง”
วันนี้(22 ก.ค.66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 พร้อมด้วยนางสาวมนัญญา ไทย เศรษฐ์ รักษาการ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าฯอุทัยธานี นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 1 นางสาวปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ร่วมเปิดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าคาวบอย อุทัยธานี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 23 กรกฎาคม 2566 ที่สนามแข่งม้าในบริเวณบ้านของ สส.ชาดา บ้านดอนหมื่นแสน ต.ดอนขวาง อ.เมืองอุทัยธานี
นายกฤษฎา ซักเช็ค สจ.อุทัยธานี เขต 1 อำเภอเมือง ในนามคณะกรรมการจัดงานแข่งขันฯ นำกลุ่มคนเลี้ยงม้า ประชาชนทั้งในและต่างจังหวัดจำนวนมาก ร่วมงานและชมเชียร์การแข่งขันกีฬาขี่ม้าคาวบอย 3 ประเภท 15 รายการ อาทิ แข่งม้ากับมอเตอร์ไซค์วิบาก แข่งม้ารอบถังจับเวลา
ซึ่งมีม้าที่เข้าร่วมการแข่งขัน กว่า 50 ตัว ชิงถ้วยรางวัล สส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ ตลอดจนรางวัลอื่นๆที่ได้รับการสนับสนุนจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ธานีพัฒนา เทศบาลเมืองอุทัยธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี รวมถึงห้างร้านต่างๆ
นายกฤษฎา เปิดเผยว่า การแข่งขันขี่ม้าคาวบอยนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของจังหวัดอุทัยธานี เพราะเห็นว่าจังหวัดใกล้เคียงอุทัยธานี มีการเลี้ยงม้าอยู่จำนวนมาก แต่ไม่มีสนามที่จะมาใช้จัดการแข่งขัน รวมทั้ง อยากที่จะพัฒนาเด็กๆที่มีใจรักในการขี่ม้าให้มีศักยภาพ ซึ่งเราก็เปิดให้เด็กๆตั้งแต่อายุ 12-14 ปี ได้มาร่วมสนุกในการแข่งขันด้วย อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้บรรดาผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้าได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
และแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรก แต่ได้รับการตอบรับจากนักขี่ม้าเป็นอย่างดีมากๆ มีกลุ่มนักขี่ม้าเดินทางมาจากทั่วสารทิศหลายจังหวัด ทั้งภาคอีสาน ไปจนถึงภาคใต้ ผลพลอยได้จากการจัดการในครั้งนี้ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับจังหวัดอุทัยธานี และยังช่วยให้จังหวัดอุทัยธานีเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 ได้ฝากข้อคิดระหว่างกล่าวเปิดงานว่า เชื่อว่าการขี่ม้าเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันในวัยเด็ก โดยเฉพาะผู้ชาย รวมถึงตัวเองก็เช่นกัน ที่ตอนเด็กๆก็ใฝ่ฝันอยากจะขี่ม้า ซึ่งก็ได้มาขี่อย่างจริงจังก็ตอนโต ความรู้สึกของการขี่ม้านั้นเป็นการสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ เหมือนกับเราได้แหวกว่ายอากาศด้วยตัวของเราเองพร้อมกับม้าคู่ใจ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ
และวันนี้ดีใจมากที่ได้เห็นเด็กๆหลายคนเข้ามาร่วมในกิจกรรมนี้ เพราะการขี่ม้าตั้งแต่เด็กๆถือเป็นการเสริมสร้างบุคลิกที่ดีกับผู้ขี่ หากสังเกตกันแล้วจะเห็นว่าคนที่ขี่ม้านั้น อกต้องตึงไหล่ต้องผาย ซึ่งจะเป็นแบบนั้นไปถึงตอนเราเดินด้วย ซึ่งเด็กๆกลุ่มนี้เขาจะโตไปเป็นเด็กที่มีคุณภาพที่ดี มีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความมั่นใจในตัวเองสูงความมั่นใจในตัวเองสูง มีความคิดที่ดี คนเราในเมื่อสุขภาพร่างกายดีก็จะคิดในวิธีบวก ซึ่งเด็กๆนั้นก็จะเป็นพลังและเป็นอนาคตของชาวไทยและเป็นความหวังของวงการขี่ม้าของเมืองไทยเรา ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญในการจัดงานดีๆในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
และสิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้ก็คือ กติกามารยาท ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของนักกีฬา คือ การเคารพการตัดสินของกรรมการ เมื่อเราเข้าสู่ระบบแล้ว เหมือนกับการเมืองก็เช่นกัน ถ้าเรายอมรับกติกานี้ เราเข้าไปแล้ว เราก็ต้องยอมรับกรรมการ แต่ถ้าคุณไม่ชอบกติกา อย่าลงมาแข่งขัน
“เพราะกีฬาคือทักษะของมนุษย์ หากคุณลงไปเล่นแล้วไม่พอใจการตัดสินของกรรมการ คุณก็ต้องยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับกรรมการก็ต้องให้ออกไปนอกสนาม เหมือนกับการเมืองก็เช่นเดียวกัน มันก็มีกติกาวางเอาไว้อยู่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากคุณอยากจะเข้าสู่ชัยชนะ คุณก็ต้องชนะตามกติกา ไม่ใช่ไปเปลี่ยนกรรมการ อันนี้ก็จะทำให้บ้านเมืองเราวุ่นวายอยู่อย่างนี้”นายชาดา กล่าว