ศูนย์ข่าวศรีราชา - สุดเศร้า ครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ เสียชีวิตในวัย 85 ปี หลังรักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบ 3 เดือน
หลังจาก ครูชลธี ธารทอง ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช จากอาการติดเชื้อในกระแสเลือดมาระยะหนึ่งแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ครูชลธี มีภาวะหัวใจหยุดเต้นด้วย
วันนี้ “ครูปุ้ม ศศิวิมล”ภรรยาของ “ครูชลธี ธารทอง” ได้โพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตอาการล่าสุดไว้ว่า "แพทย์โทร.มาอาการครูชล 'ทรุดหนัก' ให้ญาติไป กำลังไปนะ #รพ.ศิริราช"
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (21 ก.ค.) ครูชลธี ธารทอง ได้เสียชีวิตแล้ว ในวัย 85 ปี หลังจากเข้ารักษาตัวด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา โดยใช้เวลารักษาตัวนานกว่า 3 เดือน และเสียชีวิตอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช
สำหรับประวัติของ "ครูชลธี ธารทอง" เป็นนักประพันธ์เพลงไทยลูกทุ่ง มีผลงานเพลงเป็นที่รู้จักและได้สร้างนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดังหลายคนประดับวงการเพลงในประเทศไทย ชลธี ธารทอง ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
ชลธี ธารทอง มีชื่อจริงว่า สมนึก ทองมา เกิดเมื่อ 31 สิงหาคม 2480 ที่ จ.ชลบุรี พ่อมีอาชีพรับจ้างเร่ร่อนไปทั่ว แม่เจ็บท้องคลอดตอนกำลังเกี่ยวข้าว และตกเลือดตายตั้งแต่อายุ 6 เดือน ตอนเขาเกิด แม้แต่ผ้าขี้ริ้วที่จะนำมาทำผ้าอ้อมก็ยังไม่มี ชีวิตในวัยเด็กนั้นยากจน ชลธีเข้าเรียนชั้นประถม 1 ที่โรงเรียนวัดแก้วศิลาราม ที่ชลบุรี มาต่อชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนวัดโคกขี้หนอน ที่ชลบุรี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนประชาสงเคราะห์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี จากนั้นย้ายมาอยู่กับญาติที่ราชบุรี เขาเคยผ่านงานมาหลากหลาย ทั้งทำนา ทำไร่ ขุดดิน เผาถ่าน ช่างไม้ ก่อสร้าง นักมวย ลิเก นักพากย์หนัง หางเครื่อง กรรมกร และนักร้อง ปัจจุบันมีถิ่นพำนักอยู่ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
ชลธี สนใจการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เล็ก และเคยเป็นนักร้องเพลงเชียร์รำวงของวงดาวทอง เชียร์รำวงชื่อดังอีกวงของยุคนั้น ต่อมาสมัครเข้าเป็นนักร้องในวงดนตรีของสุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่งไทย และได้ขึ้นเวทีในวันที่มาสมัคร แต่เนื่องจากไม่มีที่พักในกรุงเทพฯ ต้องเดินทางไปกลับต่างจังหวัด (ราชบุรี) ขณะเดียวกัน ไม่ชำนาญเส้นทางในกรุงเทพฯ จึงมาเข้าวงสายตลอด 3 วันถัดมา จึงถูกไล่ออก
จากนั้นมีผู้ชักชวนให้มาอยู่กับวงลิเก และพากย์หนัง ก่อนจะบวช หลังจากสึกมาเป็นหางเครื่องอยู่กับวงเทียนชัย สมญาประเสริฐ ที่มีนักร้องดังอย่างผ่องศรี วรนุช ซึ่งเป็นภรรยารวมอยู่ด้วย แต่ลาออกจากวงเพราะถูกกล่าวหาว่าขโมยทองของนักร้องในวงระหว่างที่รถของคณะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ
ต่อมา ได้สมัครประกวดร้องเพลงที่จัดโดยวงรวมดาวกระจาย ของครูสำเนียง ม่วงทอง โดยใช้เพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง ซึ่งเขาก็ชนะ และครูสำเนียง รับให้มาอยู่ร่วมคณะ แต่ไม่ได้ขึ้นร้องเพราะนักร้องเต็ม และครูสำเนียงเป็นคนตั้งชื่อให้เขาว่า ชลธี ธารทอง เพราะเป็นคนเมืองชลฯ หลังจากอยู่มาปีครึ่ง ชลธี จึงได้ขึ้นร้องเพลง และต่อมาได้อัดแผ่นเสียงรวม 4 เพลง แต่ไม่ดังสักเพลง ระหว่างนั้นถ้ามีเวลาว่าง เขาได้ศึกษาวิชาแต่งเพลงอย่างเป็นกิจจะลักษณะจากครูสำเนียง และได้นำความรู้ความสามารถในการเขียนโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มาใช้ในการแต่งเพลง
ระหว่างที่อยู่วงรวมดาวนี้เองที่เพลง "พอหรือยัง" ของชลธี ถูกศรคีรี ศรีประจวบ นำไปร้องจนประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนแต่ง เพราะเพลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไปหลงรักสาวร่วมคณะรวมดาวกระจาย และอกหัก เลยแต่งเพลงนี้นำมาร้องแก้กลุ้ม พอดีมีนักร้องชายในวงอีกคนเกิดชอบมาขอไปร้องบนเวที ต่อมานักร้องคนนั้นโดนไล่ออก และได้ไปอยู่กับวงศรคีรี และเมื่อศรคีรี ได้ยินเพลงนี้จึงถามว่าใครแต่ง นักร้องคนนั้นได้บอกว่าเขาแต่งเอง ศรคีรี จึงขอเอามาอัดแผ่นเสียงโดยใช้ชื่อคนแต่งว่าศรคีรี เมื่อชลธี ธารทอง ออกมาทักท้วง ศรคีรี ได้มาอธิบายจนเป็นที่เข้าใจกันทุกฝ่าย
ครั้งที่อยู่กับวงรวมดาวกระจาย ชลธี มีโอกาสบันทึกเสียง 4 เพลง แต่ไม่ดังสักเพลง ต่อมาชลธี ถูกไล่ออกจากวงรวมดาว ในข้อกล่าวหาดังแล้วแยกวง ซึ่งไม่เป็นความจริง จากนั้นมีนายทุนออกเงินตั้งวงให้ ชื่อวง "สุรพัฒน์" แต่ก็ไปไม่รอด ขณะที่เพลงของเขาขายไม่ค่อยได้เพราะคนไม่รู้จักชื่อเสียง พอดีกับศรคีรี มาขอให้ช่วยแต่งเพลงให้ แต่พอเขาแต่งเพลงชุดนั้นเสร็จ ศรคีรี มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน ชลธี จึงตัดสินใจหันหลังให้วงการเพลง และหอบครอบครัวไปช่วยพ่อตาแม่ยายทำไร่ข้าวโพดที่แก่งเสือเต้น แต่ก่อนจะไปจากกรุงเทพฯ เขาบังเอิญไปพบกับเด็กล้างรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวบุคคโล ซึ่งมีเสียงถูกใจจึงได้มอบเพลง 2 เพลงที่กะจะให้ศรคีรี กับเด็กคนนั้นไปโดยไม่คิดเงิน ต่อมาเด็กคนนั้นคือ สายัณห์ สัญญา ที่โด่งดังจากเพลง "ลูกสาวผู้การ" และ "แหม่มปลาร้า" ที่เขามอบให้ในวันนั้น
เมื่อสายัณห์ โด่งดัง เขาจึงถูกมนต์ เมืองเหนือเรียกตัวกลับกรุงเทพฯ เพื่อให้มาแต่งเพลง ทำให้ลูกศิษย์คนต่อมาของเขาคือ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง โด่งดังจากเพลง "ทหารอากาศขาดรัก" จากนั้นชลธี ตั้งหน้าตั้งตาผลิตผลงานและสรรหานักร้องคุณภาพออกมาประดับวงการอยู่เนืองๆ จนประสบความสำเร็จอย่างมาก และในที่สุดได้รับฉายาจาก "ยิ่งยง สะเด็ดยาด" คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่า "เทวดาเพลง"
ชลธี ธารทอง เคยหันมาจับธุรกิจทำวงดนตรีลูกทุ่ง โดยทำวงให้ สุริยัน ส่องแสง แต่ปรากฏว่า นักร้องนำถูกยิงตายเสียก่อน เขาเลยต้องเป็นหนี้ยกใหญ่
บทเพลงของชลธี ธารทอง มีจุดเด่นในการเลือกสรรถ้อยคำในลักษณะของกวีนิพนธ์มาใช้ในการแต่งเพลง เนื้อหามีสาระส่งเสริมคุณค่าวิถีชีวิตไทย ท่วงทำนองเพลงมีความไพเราะตรึงใจผู้ฟัง บทเพลงมีความดีเด่นในศิลปะการประพันธ์ที่ใช้ฉันทลักษณ์หลายรูปแบบ เป็นนักแต่งเพลงที่แต่งทั้งคำร้องและทำนองเพลงเอง ผลงานเพลงล้วนแต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักฟังเพลง สร้างนักร้องลูกทุ่งให้มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก เช่น สายัณห์ สัญญา ยอดรัก สลักใจ ก๊อต จักรพันธ์ ศรเพชร ศรสุพรรณ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เสรีย์ รุ่งสว่าง เอกพจน์ วงศ์นาค แอ๊ด คาราบาว มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ดำรง วงศ์ทอง เป็นต้น