กาฬสินธุ์ - มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมกรมพัฒนาชุมชนมอบวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการประกอบอาชีพครัวเรือนยากจนเชิงบูรณาการ ด้านพัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์จัดโชว์อาชีพใหม่แก้จนได้จริง เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าในครัวเรือนลงทุนน้อย สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่มาแรงเลี้ยง 2 เดือนโกยรายได้ครึ่งแสน
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่วัดป่าพุทธมงคล ต.หลับ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมกับกรมพัฒนาชุมชนมอบวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการประกอบอาชีพครัวเรือนยากจนภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยมีนายสำเริง ม่วงสังข์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีมอบ โดยมี นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และมี นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยพัฒนาการอำเภอทั้ง 18 อำเภอ และประชาชนครัวเรือนยากจนที่ได้รับการคัดเลือกให้รับมอบอุปกรณ์ประกอบสัมมาชีพจำนวน 44 ครัวเรือน มูลค่ากว่า 900,000 บาท
สำหรับกิจกรรมในงานพัฒนาชุมชน 18 อำเภอจัดแสดงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโคกหนองนา ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในชุมชน ผ้าแพรวาราชินีแห่งไหมกาฬสินธุ์ ผ้าเช็ดเท้าด้วยวัสดุเศษผ้าที่เหลือใช้ ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดช่างตัดผมมาตัดให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมหน่วยแพทย์สงเคราะห์มาให้บริการฟรี เพื่อพี่น้องชาวจังหวัดกาฬสินธุ์มีสุขภาพที่ดีและมีรายได้เกิดขึ้นในครัวเรือน
งานนี้ นายชาญชัย จำเริญศรี อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.เหนือ อ.เมือง ได้นำเสนอโชว์การเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าเพื่อสาธิตให้ประชาชน หน่วยงานราชการที่มาร่วมกิจกรรมด้วยนำเสนอกล่องใส่ไข่ตั๊กแตนปาทังก้า ซึ่งสร้างรายได้เดือนละ 4 หมื่นบาท หลังเริ่มเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าประมาณ 2 เดือนเศษ
นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ทางเราเล็งเห็นความสำคัญของชีวิตมนุษย์ในการประกอบสัมมาชีพสุจริต จึงร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ให้คัดเลือกครัวเรือนยากจนที่ต้องการประกอบอาชีพสุจริตเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นด้วยการมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพที่ครัวเรือนยากจนต้องการ มีอุปกรณ์สำหรับช่างทุกชนิด อุปกรณ์เครื่องครัวทุกรูปแบบที่จำเป็น รถเข็น รถพ่วงข้าง อาชีพเสริมสวย เป็นต้น
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นองค์กรสาธารณกุศลเอกชนที่ไม่แสวงกำไร ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 113 ปีแล้ว ด้วยปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่เพื่อนมนุษย์ทุกชนชั้น ทุกศาสนาตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ และตาย มีหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ซึ่งการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายแรกในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด จำนวน 98 ครัวเรือน รวมเป็นมูลค่า 1,288,712 บาท (หนึ่งล้านสองแสนแปดหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยสิบสองบาทถ้วน) และต่อมาได้ดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 230 ครัวเรือน รวมเป็นมูลค่า 3,445,710 บาท (สามล้านสี่แสนสี่หมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสิบบาทถ้วน)
และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงได้พิจารณาระยะที่ 3 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมอบวัสดุอุปกรณ์อาชีพ ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา ชัยภูมิ รวม 76 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,462,420 บาท จำนวน 44 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 934,930 บาท (เก้าแสนสามหมื่นสี่พันเก้าร้อยสามสิบบาทถ้วน) รวมมอบแล้ว 5 จังหวัด จำนวน 120 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,397,350 บาท (สองล้านสามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันสามร้อยห้าสิบบาทถ้วน) การประสานความร่วมมือในโครงการแก้ปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการนี้จะช่วยพัฒนาชุมชน สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ให้แก่ครัวเรือนยากจนให้มีความรู้ มีทักษะ และมีวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
นายชาญชัย จำเริญศรี อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนชอบทำการเกษตรแบบผสมผสานมานาน ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์จำพวกปลา และการเลี้ยงวัวแต่ในระยะหลังราคาวัวในท้องตลาดมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง วัวที่เลี้ยงไว้ไม่สามารถทำกำไรได้มากนัก จึงเล็งเห็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ คือการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า จึงได้ศึกษาหาข้อมูลวิธีการเลี้ยงในสื่อโซเชียลต่างๆ จึงนำตั๊กแตนปาทังก้ามาเลี้ยงได้ประมาณ 2 เดือนเศษ ทำรายได้ตกเดือนละ 4 หมื่นบาท ทั้งการจำหน่ายเป็นตัวที่นำไปประกอบอาหารหรือกินเล่นในกิโลกรัมละ 400 บาท และจำหน่ายไข่ในราคากิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือจะแบ่งขายเป็นขีด ตกขีดละ 1,000 บาท สร้างรายได้อย่างงามดีกว่าการเลี้ยงวัวหรือทำการเกษตรด้านอื่นๆ
โดยในวันนี้ได้นำชุดอุปกรณ์การเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้ามานำเสนอโชว์วิธีการเลี้ยง มีกล่องใส่ไข่ตั๊กแตน หญ้า มุ้งไว้สำหรับเลี้ยงตั๊กแตนให้แก่ประชาชนหรือผู้ที่สนใจในงานป่อเต็กตึ๊งร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน โดยตนเป็นผู้ใหญ่บ้านได้นำครัวเรือนยากจนมารับอุปกรณ์ในการไปประกอบสัมมาชีพ โดยมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามทั้งในส่วนราชการระดับจังหวัดและประชาชนอยากนำไปทดลองเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ และที่สำคัญตั๊กแตนชนิดนี้เลี้ยงง่ายโตเร็วมีแค่ให้หญ้าหวานเป็นอาหารที่สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ของภาคอีสาน