ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลจับกุมเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ดส่งนายทุน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมผลงานทลายเครือข่าย “เปา กระนวน” นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตามยึดทรัพย์เงินสด ทองคำ รถยนต์ และทรัพย์อื่นๆ อีก 279 รายการ
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ห้องประชุมควรเดชะคุปต์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วยนายภิญโญ โฆสิต ผอ.ป.ป.ส.ภาค 4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายกิตติทัศน์ มานัส อายุ 48 ปี ชาว ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 10 กระสอบ กระสอบละประมาณ 400,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 4,072,000 เม็ด
พร้อมด้วยรถยนต์ฮอนด้า รุ่น CRV สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 กถ 9376 กรุงเทพมหานคร หลังจากตำรวจทางหลวงอำเภอพลที่ได้รับการประสานจากตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดมาจากอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ และใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ จึงได้ร่วมกันวางแผนสกัดจับกุม บริเวณแยกไฟแดงโรงพยาบาลพล เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ก่อนการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่จังหวัดตอนในตามคำสั่งของนายทุนผู้ว่าจ้าง โดยจะใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะขนยาเสพติด และใช้เส้นทางถนนมิตรภาพลำเลียง จึงได้วางแผนจับกุม กระทั่งต่อมาได้รับแจ้งว่ารถยนต์ของกลางได้เข้ามาพื้นที่จังหวัดบึงกาฬเพื่อขนยาเสพติด ชุดจับกุมจึงวางแผนโดยจัดกำลังเพื่อทำการสกัดกั้นจับกุม
กระทั่งพบรถยนต์ดังกล่าววิ่งมาตามถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา โดยรถของผู้ต้องหาได้วิ่งมาถึงแยกโรงพยาบาลพล เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ใช้รถบรรทุกปิดช่องทางเดินรถ และใช้เครื่องสกัดกั้นวางบนถนนเพื่อยับยั้งรถของผู้ต้องหาแต่ก็สามารถขับขี่ต่อไปได้ ประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้ต้องหาได้จอดรถทิ้งวิ่งลงจากรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมติดตามตัวและสามารถควบคุมตัวได้ ผลการตรวจค้นรถยนต์พบยาบ้าจำนวน 10 กระสอบ อยู่เบาะด้านหลังของรถยนต์
จึงจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดยาบ้าของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอพลดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน โดยผิดกฎหมาย”
ส่วนอีกคดี เป็นผลการทลายเครือข่าย “เปา กระนวน” นักค้ายาเสพติดรายสำคัญของตำรวจภูธรภาค 4 โดยกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ซึ่งก่อเหตุยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจเครือข่าย “เปา กระนวน” และเครือข่าย “นุ กระนวน” จนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งรับยาเสพติดจากเครือข่ายดังกล่าวมาจำหน่าย
ทั้งสืบสวนทราบว่ามีการเปิดบริษัทบังหน้าเพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดและครอบครองทรัพย์สินจำนวนมาก จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเครือข่ายดังกล่าว ต่อมาวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว “นายบอม” ตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ในข้อหาสมคบฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จ.มุกดาหาร และวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 เวลา 06.00 น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพัก และบริษัทของนายบอม ทั้งหมด 7 จุด ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร 2 จุด จังหวัดสกลนคร 2 จุด และกรุงเทพมหานคร 3 จุด
ผลการตรวจค้น พบทรัพย์สิน 279 รายการ ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 2,842,810 บาท ตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ โฉนดที่ดิน 15 ฉบับ รถยนต์ 6 คัน ได้แก่ เบนซ์ GLC 220D สีดำ, โตโยต้า มาเจสตี สีดำ, มิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ, นิสสัน นาวารา สีดำ, ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา, ซูบารุ สีขาว รถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน ทองคำรูปพรรณ ประกอบด้วย กำไลข้อมือ, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, ต่างหู, แหวน รวม 41 รายการ ทองคำแท่ง 3 แท่ง บัญชีเงินฝาก 50 เล่ม
กรมธรรม์ประกันชีวิต 6 กรมธรรม์ และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น นาฬิกาหรู, กระเป๋าแบรนด์เนม, พระเครื่องหลายรายการ นอกจากทรัพย์ที่ตรวจพบยังสืบสวนทราบว่านายบอมถือครองที่ดินอีกหลายแปลง ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป ในส่วนของทรัพย์สินที่ยึดอายัดไว้ ได้แจ้งการยึดอายัดไปยังเลขาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อดำเนินการยึดอายัดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542