เชียงใหม่/หนองคาย – ตำรวจ สอท.ตามรวบถึงหนองคาย..หนุ่มเชียงใหม่ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง “ไลน์ สภ.เมืองเชียงใหม่” ตุ๋นเหยื่อโอนเงิน 20 ครั้ง สูญกว่า 10 ล้าน
หลังกลุ่มคนร้ายจัดตั้งระบบอุปกรณ์โทรศัพท์และใช้การสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยวิธีการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนแล้วโทรศัพท์ติดต่อไปยังประชาชนทั่วไป อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท DHL บริษัทขนส่งด่วนระหว่างประเทศ หลอกลวงว่ามีพัสดุที่ส่งไปยังประเทศจีน ถูกตรวจสอบพบมีสิ่งของผิดกฎหมาย เกี่ยวข้องกับเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่เป็นผู้ส่งพัสดุ และมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน
..หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายทุกบัญชี โดยคนร้ายได้ขอ LINE ID ของผู้เสียหายและใช้ไลน์แอบอ้างชื่อ "สภ.เมืองเชียงใหม่" เพิ่มเป็นเพื่อน ก่อนใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อโอนเงินในบัญชีธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายผ่านระบบแอพพลิเคชั่นของธนาคารในโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวน 20 ครั้ง เป็นเงิน 10,150,000 บาท เมื่อผู้เสียหายรู้ว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมา วันที่ 14 ก.ค.66 หน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พักอาศัยอยู่หอพัก บริเวณถนนศิลปาคม หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย
พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ร.ต.อ.อาณัติ เข็มทอง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดจับกุม จึงกระจายกำลังออกค้นหาพบนายทัพพสาร อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสายเดิมอเวนิว หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จึงได้ทำการจับกุม
พร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชนฯ ” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับติดตัวในความผิดฐานฉ้อโกงฯ อีกกว่า 7 หมายจับ