อุทัยธานี – “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ส.ส.คนดังเมืองอุทัยฯ เปิดใจ..อภิปรายแคนดิเคตนายกรัฐมนตรี ในนาม “พรรคภูมิใจไทย” บอกเมื่อวานแค่โน 112 “พิธา” ได้เป็นนายกไปแล้ว แต่ก้าวไกลไม่รับก็จบไป ส่วน 19 กรกฎาฯนี้ จะมีพิธาหรือไม่ยังตอบไม่ได้ แต่ขอแค่ “อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน”
เย็นวันนี้(14 ก.ค.66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเดินทางกลับมายังจังหวัดอุทัยธานีแล้ว ได้เปิดบ้านดอนหมื่นแสน ต.ดอนขวาง อ.เมืองอุทัยธานี พูดคุยกับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นร้อนแรงที่ได้อภิปรายในสภาฯระหว่างโหวตนายรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.)
นายชาดา กล่าวเปิดใจว่า สิ่งที่ตนอภิปรายไปเมื่อวานนี้ในฐานะของตัวแทนพรรคภูมิใจไทย หากฟังให้ดีก็คือเป็นการนำเสนอทางออก ในเมื่อบ้านเมืองมีปัญหาเพราะการเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในตอนนี้ และการโหวตนายกรัฐมนตรีก็มีปัญหา มีความคิดแบ่งฝ่ายกันแบบนี้ ทางพรรคภูมิใจไทยคิดว่าน่าจะมีทางออก เหมือนคนที่มีปัญหากันก็มานั่งคุยกัน แล้วก็ไม่ได้ปฎิเสธท่านเลย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราขอเงื่อนไขเรื่องที่ทำการอภิปรายไปเท่านั้นเอง
ซึ่งหากเป็นการเจราจาธุรกิจหรือการค้าระหว่างประเทศ มันก็จะต้องมีทางออก หรือมีลดลงเพิ่มขึ้นในการเจรจา เพราะนี่มันเป็นปัญหาบ้านเมือง ซึ่งจะไปเดินเข้าสู่ทางตันไม่ได้ ก็เลยเสนอแนวคิดไปว่า หากท่านตัดตรงนี้ออกไปเราก็จะยอมรับท่านแค่นั้นเองไม่มีอะไรมากมาย แต่เขาปฎิเสธ จะบอกว่าเป็นสัญญากับประชาชนไว้ ทางเราก็ไม่สามารถไปวิจารณ์ ก็ให้ประชาชนดูเอา
“พรรคภูมิใจไทยเสนอทางออกให้แล้ว หากเมื่อวานบอกว่าโน 112 เป็นอันจบทุกอย่าง เขาได้เป็นนายกแล้ว ทางพรรคภูมิใจไทยยืนหยัดและเราทำทันที ทางนั้นเขาไม่มีการเจราจาก็ไม่รู้จะไปยังไงในเมื่อมันต้องมีการคุยกันแล้วก็ถอยกันหรือเดินหน้ากันก็ว่ากันไป ซึ่งบ้านเมืองมันต้องมีทางออก แต่ยืนอยู่จุดนี้จุดเดียว ซึ่งก็หมดปัญญาที่จะแก้ปัญหาเหมือนกัน”
และหากมีความวุ่นวายหรือเกิดปัญหาอะไรขึ้น เราคงไม่ไปวุ่นวาย แต่เรายังคงทำหน้าที่ในสภากันต่อไป และเชื่อว่าคนไทยส่วนมากของประเทศก็น่าจะรู้ว่าต้องทำอะไร ขออย่างเดียว..อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน..แค่นั้น ตอนมองว่าสิ่งสำคัญมีอยู่เท่านี้และควรท่องกันไว้ให้มากๆ
“ทางเราก็ยืนยันชัดเจนเช่นกัน หากไม่มี 112 ก็มาคุยกัน ซึ่งก็ต้องประชุมพรรคก่อน เมื่อวานนี้ตนพูดในนามพรรค ถ้าเขาเสนอว่าตัดเลยก็จะลงมติให้เลยทันที แต่เขาไม่รับเงื่อนไขก็จบกันไป ส่วนในวันที่ 19 กรกฎาคม นี้ ก็ไม่ทราบว่านายพิธาจะมาใหม่หรือไม่ หรือว่าใครจะมาเราก็ไม่ทราบ ก็คงต้องขอประชุมพรรคก่อน คงไม่สามารถไปตอบแทนพรรคได้ เรื่องพรรคเป็นเรื่องใหญ่เมื่อวานพูดแทนพรรคไปแล้ว”
ส่วนเรื่องที่เห็นว่า ตนเดินเข้าไปถึงที่นั่งของพรรคก้าวไกลนั้น ก็เพราะว่าได้ยินแว่วๆว่านายโรม พูดว่า..วันนี้โหวตนายคุณพิธาไม่ได้ไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพูดถึงเราหรือว่าพูดถึงใคร ก็เลยเดินไปถามนายโรม ซึ่งเขาก็ได้ตอบว่าท่าน ส.ว.เป็นคนพูด ก็เลยคุยกับเขาไปว่า..อันนี้ผมไม่ทราบนะครับ
และบอกกลับไปด้วยว่า นายพิธาไม่ได้หมดความเป็น ส.ส.ตามกฎหมาย ยังโหวตเลือกนายกตามกฎหมาย ยังโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ก็เลยบอกน้องๆที่นั่งอยู่อย่างนั้นไป ซึ่งจริงๆแล้วกับพรรคก้าวไกล ตนก็ไม่ได้มีอะไร เรื่องหลักการก็คือเรื่องหลักการ และอันไหนถูกก็ว่าถูก อันไหนผิดก็ว่าผิด ก็มีความเห็นเท่าที่รู้ก็บอกเขาไปทุกครั้ง ทางพรรคเขารู้ดี 4 ปีที่ผ่านมาเขาทำอะไร อันไหนถูกต้องตนก็ทำให้ก็ช่วยกันสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามาค้านกันจนไม่ฟังกันหรือโนกันจนไม่มีเหตุผลเลย
ต่อข้อถามว่า หากนายพิธา ไม่ได้เป็นนายก มีความคิดเห็นอย่างไร นายชาดาไม่ขอตอบในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า เพราะไม่ทราบได้ว่าจะเป็นยังไรต่อ แต่มองว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ และมีชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ซึ่งในตอนนี้เรากำลังแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง