เชียงใหม่-หนุ่มอดีตผู้ใหญ่บ้านแม่ริมโผล่ขึ้นโรงพักเข้าให้ปากคำกรณีโซเชียลแชร์ว่อนคลิปทำร้ายร่างกายคู่กรณีแถมโชว์กร่างซ้ำ “ใหญ่ที่สุดในตำบล” สารภาพก่อเหตุด้วยความมึนเมาและบันดาลโทสะ ยอมรับผิดขอโทษสังคม ด้านผู้เสียหายยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ความคืบหน้ากรณีที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สัจธรรม น้ำใจงาม” โพสต์ขอความเป็นธรรมพร้อมคลิปเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งชกต่อยทำร้ายร่างกายพี่ชายของตัวเองจากด้านหลังจนตกลงไปกองกับพื้น ก่อนที่จะมีเพื่อนที่มาด้วยกันและคนภายในร้านเข้ามาห้ามไว้ แต่ชายที่ก่อเหตุยังตะโกนพูดจาข่มขู่ว่า “กูใหญ่ที่สุดในตำบลเหมืองแก้ว และไม่กลัวใครในอำเภอแม่ริม” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.วันที่ 11 ก.ค.66 โดยโพสต์ดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทั้งนี้เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าชายที่ก่อเหตุนั้นเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ผู้เสียหายนั้น ทราบว่าคือ นายธวัช อินต๊ะ อายุ 41 ปี เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอแม่ริม ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(13 ก.ค.66)
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้(14 ก.ค.66) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายกิตติ อยู่สบาย อายุ 39 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตามคลิปที่มีการเผยแพร่ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเองเพื่อให้ปากคำ โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย ซึ่งนายกิตติ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าก่อเหตุทำร้ายร่างกายคู่กรณีจริงและเข้าพบตำรวจโดยที่ยังไม่ได้มีหมายเรียก ซึ่งยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจร่ายกายของคู่กรณีเสียก่อน สำหรับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นมาจากความมึนเมาสุราจนขาดสติและกระทบกระทั่งกันจากความไม่พอใจที่มองหน้า ทำให้ตัวเองบันดาลโทสะและทำร้ายร่างกายคู่กรณี โดยยอมรับด้วยว่ามีการพูดข่มขู่ตามคลิปเพื่อให้คู่กรณีเกรงกลัวเพราะเห็นทางฝ่ายคู่กรณีมากันหลายคนทำให้กลัวว่าอาจจะถูกรุมทำร้าย ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ตัวเองน้อมรับความผิดและอยากจะขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องและสังคม รวมทั้งพร้อมจะพูดคุยเจรจากับคู่กรณีและรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไป
ขณะที่นายธวัช อินต๊ะ อายุ 41 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุแต่ไม่ได้สนิทสนมกัน ยืนยันว่าไม่ได้มองหน้าหาเรื่องคู่กรณีและไม่เคยมีเรื่องบาดหมางขัดแย้งกันมาก่อน แต่ก่อนหน้าเกิดเหตุทางผู้ก่อเหตุมีการพูดจาลักษณะหาเรื่องและพาดพิงถึงพ่อของตัวเองที่เป็นผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งตัวเองไม่ได้ตอบโต้ จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้มาทำร้ายร่างกายตัวเอง ซึ่งโชคดีที่มีคนมาช่วยห้ามไว้ ไม่เช่นนั้นตัวเองอาจจะบาดเจ็บสาหัสกว่านี้ ส่วนคลิปที่มีการแชร์นั้น ตัวเองไม่ทราบและไม่ได้เป็นผู้แชร์ คาดว่า น่าจะเป็นคนรู้จักที่ช่วยแชร์ให้เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้หลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อพูดคุยจากคู่กรณี แต่ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจและตรวจร่างกายเป็นหลักฐานแล้ว โดยยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด.