xs
xsm
sm
md
lg

แฉ!แก๊งปลอมบัตร ปชช.สุดเหิมเย้ยกฎหมายใช้ภาพ มท.1โพสต์ตุ๋นเหยื่อต่างด้าวหลังเพิ่งพบอ้างตัวเป็นปลัดมหาดไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ – “ปลัดจอมแฉ” เผยมิจฉาชีพตุ๋นต่างด้าวทำบัตรประชาชนยังเหิมไม่เลิก ล่าสุดใช้ภาพรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดบัญชีเฟซบุ๊กลวงเหยื่อ หลังก่อนหน้านี้เพิ่งพบอ้างตัวเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยหลอกผู้เสียหายหลายรายสูญเงินรวมกันกว่า 500,000 บาท ขณะที่หนุ่มไทยใหญ่โผล่ร้องขอความช่วยเหลืออีกราย โดนผู้หญิงอ้างตัวเป็นปลัดอำเภอช่วยทำบัตรประชาชนไทย หลงเชื่อโอนเงินไปให้รวมเกือบแสนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก เคยวิงวอนขอคืนบางส่วนเพื่อนำไปรักษาภรรยาที่ป่วยหนัก แต่กลับถูกข่มขู่หนัก


วันนี้(14 ก.ค.66)รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายส่วย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา เชื้อสายไทยใหญ่ นำเอกสารหลักฐานโยเฉพาะสลิปการโอนเงินธนาคาร เข้าพบนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย( ส.ปอ.ท.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมและให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2564 และอ้างตัวว่าปลัดอำเภอ ซึ่งสามารถช่วยเหลือดำเนินการให้ได้รับสัญชาติไทยและบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย ทำให้นายส่วยหลงเชื่อโอนเงินให้ไปรวมแล้วทั้งสิ้น 94,000 บาท แต่ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้และบ่ายเบี่ยงตลอด อีกทั้งยังมีการข่มขู่ด้วย จึงเชื่อว่าผู้หญิงคนดังกล่าวน่าจะเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งนายส่วยบอกด้วยว่า นอกจากตัวเองแล้ว ยังมีคนต่างด้าวอีกเป็นจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน

ทั้งนี้นายส่วย (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นการนำเสนอข่าวกรณีที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกทำบัตรประชาชนปลอมเข้าร้องขอความเป็นธรรมและได้รับการช่วยเหลือจากนายบุญญฤทธิ์ ที่นำเข้าแจ้งความดำเนินคดี จึงนำกรณีที่เกิดขึ้นกับตัวเองที่เชื่อว่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเช่นกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือบ้างเนื่องจากเชื่อมั่นว่านายบุญญฤทธิ์เป็นที่พึ่งพาได้ โดยกรณีนี้ของตัวเองนั้น เริ่มจากเมื่อประมาณปี 2564 ช่วงที่ตัวเองทำงานอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “นก” ที่อ้างตัวว่าเป็นปลัดอำเภอ สามารถช่วยเหลือดำเนินการให้ได้รับสัญชาติไทยพร้อมบัตรประชาชน แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายดำเนินการคนละ 70,000 บาท ซึ่งด้วยความน่าเชื่อถือทำให้ตัวเองและคนรู้จักอีกหลายคนที่ต้องการสัญชาติไทยหลงเชื่อ

โดยการจ่ายเงินครั้งแรกนั้น ตัวเองนัดหมายกับผู้หญิงคนดังกล่าวในพื้นที่อำเภอแม่ริม เพื่อนำเงินสดจำนวน 15,000 บาท ไปจ่ายให้ตามที่ผู้หญิงคนดังกล่าวระบุว่าเป็นเงินค่ามัดจำ จากนั้นมีการโอนเงินให้อย่างต่อเนื่องอีกหลายครั้งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 94,000 บาท ซึ่งแต่ละครั้งจะมีการกล่าวอ้างต่างๆ นานาว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจนเกินจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยและบัตรประชาชนเสียที กระทั่งตัวเองไม่มีเงินและต้องหยุด รวมพยายามติดตามทวงถามมาตลอดถึงปัจจุบัน ทั้งเรื่องบัตรและขอเงินคืน แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง แม้กระทั่งในช่วงที่ภรรยาของตัวเองล้มป่วยหนักและไม่มีเงินรักษา ได้วิงวอนขอเงินคืนบางส่วนเพื่อนำไปรักษาตัวก็ถูกปฏิเสธและมีการข่มขู่ด้วย ซึ่งจากการที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปทำให้ทุกวันนี้ตัวเองและครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนักและเป็นหนี้สินจำนวนมาก จึงอยากขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือในการดำเนินการตามกฎหมาย


ขณะที่นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย( ส.ปอ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวนี้ผู้เสียหายเป็นบุคคล ต่างด้าวที่ตกเป็นเหยื่อเนื่องจากมิจฉาชีพรู้จุดอ่อนว่าต้องการได้รับสัญชาติไทยและบัตรประชาชน จึงฉวยโอกาสสร้างความน่าเชื่อถือและหลอกลวงเงินทำให้ได้รับความเสียหายดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นกรณีนี้พบว่าหลักฐานค่อนข้างชัดเจน และเตรียมพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม ในช่วงสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าบุคคลต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายส่วนใหญ่มักจะไม่แจ้งความดำเนินคดีหรือเกรงกลัวที่จะเป็นพยาน ทำให้มิจฉาชีพรอดพ้นไปก่อเหตุซ้ำซาก จึงอยากขอย้ำเตือนบุคคลต่างด้าวว่าหลงเชื่อและจ่ายเงินให้อย่างเด็ดขาดหากมีผู้ใดที่แอบอ้างชักจูงว่าสามารถช่วยเหลือดำเนินการให้ได้รับสัญชาติไทยและบัตรประชาชน เพราะจะทำให้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหาย และหากตกเป็นเหยื่อแล้วอย่ากลัวที่จะดำเนินคดี

นอกจากนี้นายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกลุ่มผู้เสียหายเป็นบุคคลต่างด้าวเข้าร้องเรียนว่าถูกมิจฉาชีพที่ติดต่อกันทางแอพลิเคชั่นไลน์อ้างตัวว่าเป็นนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หลอกลวงว่าสามารถดำเนินการลัดขั้นตอนช่วยเหลือให้บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนได้รับบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทยได้ โดยเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการรายละ 50,000 บาท ทำให้สูญเงินไปแล้วรวมกันกว่า 500,000 บาท จึงได้ให้การช่วยเหลือตรวจสอบพบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการและพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ดแล้ว ขณะที่ล่าสุดพบว่ามิจฉาชีพมีการใช้ภาพพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และตราสัญลักษณ์กระทรวงมหาดไทย เป็นภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊ก สร้างความน่าเชื่อและแอบอ้างหลอกลวงว่าสามารถช่วยผู้ที่มีสัญชาติไทยในการทำบัตรประชาชนไทยให้ได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติอย่างร้ายแรง และตัวเองในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ไม่สามารถปล่อยผ่านได้ ทั้งนี้เตรียมนำหลักฐานแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดอื่นๆ จนถึงที่สุด.




กำลังโหลดความคิดเห็น