พิจิตร – ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งยกเลิกปฏิบัติการทวงคืน “วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน” พร้อมไลน์ข้อความขอโทษ จนท. หลังไม่ได้เข้าร่วมภารกิจจนถูกกลุ่มมวลชนที่ยึดวัดตีโต้ ทั้งยิงหนังสติ๊ก-ปาถุงอุจจาระ-พ่นยาฆ่าแมลง แม้ศาลมีคำสั่งเปิดประตูวัด เป็นเหตุให้ จนท.พ่ายแพ้ย่อยยับ
ความคืบหน้า กรณีฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ทหาร-อส. ที่มีคำสั่งจากนายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯ พิจิตร ให้เปิดปฏิบัติการตาเถรกวาดลาน-นำกำลังเข้าทวงคืนวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 ที่ผ่านมา หลังถูกชายชุดดำนำมวลชนยึดวัดมาตั้งแต่ 6 เม.ย.66 จนเจ้าอาวาส-กรรมการวัด ตลอดจน จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สิน หรือดำเนินการใดๆได้
แต่หลังจากนายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล นำกำลัง อส. 60 นาย สมทบกับกำลังของตำรวจ-ทหาร ที่มีคำสั่งกำชับจากผู้ว่าฯพิจิตร ว่าห้ามใช้กำลังรุนแรงกับผู้ชุมนุมภายในวัด ใช้รถน้ำฉีดเปิดทาง-เปิดประตูพาพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เข้าวัด กลับถูกมวลชนที่ยึดวัดใช้หนังสติ๊กยิงลูกดินเหนียว-น็อต-ลูกเหล็ก-ใช้ก้อนหิน/ถุงอุจจาระขว้างปา และได้ใช้เครื่องฉีดพ่นสารเคมีใส่ยาฆ่าแมลง-ยาฆ่าหญ้า ฉีดสกัด จน จนท.ต้องยกเลิกภารกิจ เจ้าหน้าที่ของ ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ทหาร-อส. ได้รับบาดเจ็บหลายราย หนึ่งในนั้นคือ นายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล ถูกหนังสติ๊กยิงได้รับบาดเจ็บที่มือ และจุดอื่นๆ
ล่าสุดวันนี้(14 ก.ค.66) นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯ พิจิตร ได้โพสต์ข้อความบนไลน์ “พิจิตรของเรา” ซึ่งเป็นไลน์กลุ่มของหัวหน้าส่วนราชการและภาคประชาชน ว่า “เรียน ท่านรอง ผวจ. ท่านปลัดจังหวัด ท่านนายอำเภอและน้องๆ ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือทางราชการ และร่วมในการปฎิบัติการนำท่านเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เข้าไปในวัด เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 จนทำให้พวกเราบางรายต้องบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย
..ผมขอโทษที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย เนื่องจากมาราชการที่สำคัญ และขอให้ยกเลิกปฎิบัติการดังกล่าวเพื่อไม่ให้พวกเราต้องไปปะทะกับผู้ที่ยึดครองวัด ขอมอบให้ท่านนายอำเภอโพทะเลแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางท่านเจ้าอาวาส ทุกราย”
ด้านนายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้จะขอไปตรวจสุขภาพและตรวจบาดแผลที่ถูกหนังสติ๊กของกลุ่มผู้ชุมนุมยิงใส่ และจะขอใบรับรองจากแพทย์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานที่จะเข้าแจ้งความที่ สภ.โพทะเล ในช่วงบ่าย ส่วนภารกิจทวงคืนวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ก็ต้องหยุดตามคำสั่งของผู้ว่าฯพิจิตร ที่ขณะนี้ติดราชการอยู่ที่ กทม.
ขณะที่นายกิจชัย บุญปู่ - นายกิตติรัตน์ ศรีสุเทพ ทีมทนายความของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้เปิดเผยถึงการใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการกับผู้ที่บุกรุกวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ว่าได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนประกันตัวแกนนำที่ตกเป็นจำเลยในคดีบุกรุกวัดหลวงพ่อเงินบางคลานแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องจำเลยและพวกรวมถึงชายชุดดำในข้อหาบุกรุกและทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา
ซึ่งศาลมีคำสั่งว่าให้ตัวจำเลยหลายคนในกลุ่มนี้ มาศาลเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เพื่อทำการไต่สวน และนำสืบพยาน นอกจากนี้ยังมีคำสั่งว่า ให้จำเลยทั้ง 5 ปลดล็อกแม่กุญแจ และนำโซ่ออกจากประตูรั้ววัดทุกบาน พร้อมห้ามจำเลยทั้ง 5 และบริวาร ปิดประตูรั้ววัด ห้ามกีดขวาง ไม่ให้ เจ้าอาวาสและคณะกรรมการเข้าไปดำเนินงานภายในวัด เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
และเมื่อศาลได้ออกหนังสือก็จะมอบให้เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร ส่งไปยังภูมิลำเนาของกลุ่มแกนนำที่เป็นจำเลย ซึ่งก็คงต้องติดตามดูต่อไปว่าฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมจะยอมเคารพในคำสั่งศาลหรือว่าจะยังคงใช้มวลชนเป็นโล่กำบังในการยึดครองวัดหลวงพ่อเงินบางคลานอย่างที่เป็นอยู่นี้ต่อไปอีกหรือไม่
สำหรับบรรยากาศภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน วันนี้(14 ก.ค.)ก็ยังคงมีกลุ่มชาวบ้านปักหลักกินนอนยึดครองวัดและปิดประตูห้ามคนนอกเข้าโดยเด็ดขาด รวมถึงมียามเฝ้าหน้าประตู ถ้ามีผู้สื่อข่าวหรือใครไปถ่ายภาพก็จะมีการใช้หนังสติ๊กยิงใส่อีกด้วย
