เชียงใหม่ - หนังคนละม้วน! หมอนวดสาวประเภทสองพร้อมเจ้าของร้านนวดไทยกลางเมืองเชียงใหม่ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดสาวเจ้าของเฟซบุ๊กกรณีโพสต์อ้างแฟนหนุ่มถูกลวนลามจับรูดอวัยวะเพศระหว่างใช้บริการนวดน้ำมัน แถมยังไปร้องสื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย ยืนยันไม่ได้ลวนลามใดๆ แต่กลับถูกคู่กรณีทำร้ายด้วยการเตะเข้าที่ใบหน้าเต็มๆ จนบาดเจ็บ
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์บอกเล่าเรื่องราวเตือนภัยและร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่าแฟนหนุ่มถูกหมอนวดสาวประเภทสองลวนลามระหว่างเข้าไปใช้บริการนวดแผนไทยที่ร้านแห่งหนึ่งย่านถนนวัวลาย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 66 โดยหมอนวดสาวประเภทสองได้ใช้มือจับและรูดอวัยวะเพศของแฟนหนุ่มหลายครั้ง ทั้งๆ ที่มีการตักเตือนแล้ว จนทำให้แฟนหนุ่มโมโหและใช้เท้าถีบใส่ใบหน้าหมอนวด จากนั้นได้เรียกร้องให้ทางร้านรับผิดชอบเรื่องที่หมอนวดลวนลาม แต่กลับถูกปฏิเสธและให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ อย่างไรก็ตาม เมื่อไปแจ้งความแล้วและเรียกคู่กรณีมาเจรจา กลับกลายเป็นว่าทางฝ่ายตัวเองต้องจ่ายค่าเสียหายเรื่องทำร้ายร่างกายให้คู่กรณี 1,000 บาท เพราะบริเวณจุดเกิดเหตุในร้านไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่มีหลักฐานยืนยันเรื่องการถูกลวนลาม
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (10 ก.ค. 66) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นายพิพัฒน์ สุริยะพันธ์ อายุ 38 ปี หมอนวดสาวประเภทสอง พร้อมเจ้าของร้านนวดแห่งหนึ่งย่านวัวลาย ซึ่งถูกอ้างถึงในกรณีดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของเฟซบุ๊กและแฟนหนุ่ม ที่เผยแพร่เรื่องราวที่เกิดขึ้นบิดเบือนจากความเป็นจริงทำให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยนายพิพัฒน์ยืนยันว่าไม่ได้ลวนลามใดๆ ต่อแฟนหนุ่มของผู้โพสต์ ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุผู้โพสต์มาส่งแฟนหนุ่มใช้บริการนวดน้ำมัน ระหว่างที่นวดมีแฟนสาวนั่งรออยู่โดยมีเพียงผ้าม่านกั้น ผ่านไปได้ประมาณ 30 นาที จู่ๆ ลูกค้าได้ทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการเตะเข้าที่บริเวณใบหน้า อ้างว่าถูกลวนลาม จากนั้นยังได้พยายามเรียกร้องค่าเสียหายจากทางร้านเป็นเงิน 1,000 บาท แต่ตัวเองและทางร้านได้ปฏิเสธที่จะจ่ายให้เพราะไม่ได้กระทำผิดใดๆ และรู้สึกเหมือนโดนกรรโชกทรัพย์ จึงให้คู่กรณีแจ้งความ
เมื่อคู่กรณีแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งช่วยพูดคุยไกล่เกลี่ย ซึ่งทางคู่กรณีไม่สามารถแสดงหลักฐานใดๆ ยืนยันได้เลยว่ามีการลวนลาม แต่ในส่วนของการทำร้ายร่างกายนั้น ทางคู่กรณียอมรับและข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจน ในที่สุดจึงตกลงยอมความกัน โดยคู่กรณียินยอมจ่ายค่าเสียหายให้เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท พร้อมขอโทษ ซึ่งคิดว่าเรื่องราวทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดีแล้ว อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าต่อมาทางคู่กรณีกลับนำเรื่องราวไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียและมีการให้ข่าวบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง รวมทั้งสิ่งที่ได้เจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันไว้ ดังนั้นตนและเจ้าของร้านจึงต้องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีต่อคู่กรณีเพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเองและร้าน โดยยืนยันว่าตนเองทำอาชีพเป็นหมอนวดมาแล้วกว่า 6 ปี ไม่เคยกระทำเรื่องเสื่อมเสียใดๆ ต่ออาชีพเลย
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นนายพิพัฒน์เตรียมแจ้งความดำเนินคดีคู่กรณีในเรื่องการทำร้ายร่างกายที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แจ้งความเนื่องจากไกล่เกลี่ยกันและทางคู่กรณีจ่ายเงินเยียวยา 1,000 บาท พร้อมทั้งแจ้งความเพิ่มเติมในส่วนที่ได้รับความเสียหายอื่นๆ หลังจากที่ทางคู่กรณียังไม่ยอมยุติเรื่องตามที่ไกล่เกลี่ยตกลงกัน ขณะที่ทางเจ้าของร้านนวดประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีในฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือหมิ่นประมาท ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ส่วนคู่กรณีนั้นรายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดได้ลบโพสต์เรื่องราวกรณีดังกล่าวออกไปจากเฟซบุ๊กแล้ว