ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สลด! หนุ่มใหญ่โคราชลูกสอง ก่อเหตุฆ่าเมียคาบ้านพัก กลัวความผิดหนีข้ามอำเภอไปผูกคอตัวเองใต้เถียงนาที่บ้านเกิดแต่ไม่สำเร็จ เชือกขาดก่อน ตร.ชุดสืบสวนดักรับตัวที่ รพ. นำไปสอบปากคำก่อนตั้งข้อหาหนัก
วันนี้ ( 7 ก.ค.) พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนผูกคอตัวเองอยู่ต้นไม้บริเวณเถียงนา บ้านโพธิ์งาม ม.12 ต.นิคม จ.นครราชสีมา แต่เชือกเกิดขาด ทำให้ร่างหล่นมานอนอยู่ที่พื้นดิน หายใจรวยริน สั่งการให้ ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมธานันทิวรรช รอง สวป.สภ.พิมาย พร้อม ตร.ชุด 191 สภ.พิมาย และประสานกู้ชีพกู้ภัยฮุก 31 จุดพิมาย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือ
ในจุดเกิดเหตุ พบชาย 1 ราย ทราบชื่อคือนายวิชิต แดงไธสง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.12 บ้านโพธิ์งาม ต.นิคม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา สภาพสวมเสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ นอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัวอยู่ที่พื้น ตรวจสอบบริเวณลำคอมีร่องรอยการถูกรัด และพบเชือกผูกอยู่กับคานของเถียงนามีร่องรอยขาด จึงรีบให้กู้ภัยฯ นำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.พิมาย เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา
เมื่อส่งตัวนายวิชิต มาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.พิมาย มีตำรวจชุดสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ติดตามมาที่ รพ.พิมายด้วย จึงทราบว่า นายวิชิต ได้ไปก่อเหตุฆ่าเมียเสียชีวิตอยู่ที่บ้านพักในตัวเมืองนครราชสีมา เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา แล้วหลบหนีมาหามารดาที่ ต.นิคม อ.พิมาย ซึ่งคาดว่า น่าจะกลัวความผิด จึงเดินออกไปทุ่งนาแล้วใช้เชือกผูกคอฆ่าตัวตาย แต่เชือกเกิดขาด จึงทำให้ร่างของนายวิชิต ตกลงมานอนแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นไม้ จนกระทั่งมีชาวบ้านไปพบเห็นในช่วงบ่ายวันนี้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมายและกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือดังกล่าว
จากการสอบถาม นางสำฤทธิ์ มีชัยรัตน์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56ม.12บ้านโพธิ์งาม ต.นิคม จ.นครราชสีมา มารดาของนายวิชิต ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ลูกชายไปทำงานอยู่ในตัวจังหวัดนครราชสีมา แต่งงานอยู่กินกับเมีย มีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งช่วงเวลา 03.00 น.วันนี้ ลูกชายได้ขับรถเก๋งมาที่บ้าน บอกว่า ได้ฆ่าเมียเสียชีวิตแล้ว และบอกกับตนอีกว่า จะออกไปนาที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร
จนช่วงบ่ายวันนี้ มีชาวบ้านมาบอกว่า ลูกชายของตนผูกคอตายที่เถียงนา แต่เชือกขาดจึงทำให้ยังไม่ตาย ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ลูกชายมาก่อเหตุฆ่าเมีย ตนยังไม่ทราบว่าเพราะอะไร ต้องรอสอบถามลูกชายก่อน ซึ่งหลังจากผู้ก่อเหตุมีอาการดีขึ้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนจะตั้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป