ระยอง - ผกก.สภ.เมืองระยอง ลงพื้นที่ให้กำลังใจคุณยายวัย 71 ปี ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกพาขึ้นรถไปเบิกเงินจากธนาคารและหลอกเอาเงินสดที่เก็บไว้ภายในบ้านจนสูญเงินรวม 2.4 แสนบาท ขณะลูกชายบอกแม่คล้ายโดนป้ายยา
จากเหตุการณ์กลุ่มมิจฉาชีพหลอกตีสนิท นางสวรรค์ พงษ์ศิลา อายุ 71 ปี แม่ค้าขายผลไม้ในตลาดผลไม้ตะพง จ.ระยอง โดยทำทีเข้ามาขอซื้อเงาะ 2 เข่ง เป็นเงินจำนวนกว่า 2,000 บาท จนคุณยายต้องพาไปเอาเงาะที่บ้าน ก่อนจะออกอุบายว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเงาะ และขอให้คุณยายขึ้นรถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มด้วยกัน
แต่ระหว่างทางกลุ่มมิจฉาชีพได้พูดจาตีสนิทและอ้างว่ารู้จักกับพี่ชายของคุณยายที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ก่อนจะเอ่ยปากขอยืมเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อนำไปช่วยลูกที่ติดคุกในคดียาเสพติด จนคุณยายวัย 71 ปี หลงเชื่อพาไปเบิกเงินสดจากธนาคาร และยังได้นำเงินที่เก็บไว้ภายในบ้านอีก 40,000 บาท
ขณะที่ ร.ต.วีรวัฒน์ พงษ์ศิลา อายุ 37 ปี ลูกชายของคุณยายบอกว่า หลังเกิดเหตุแม่ของตนเองมีอาการหวาดผวาและระแวงคนที่เข้ามาใกล้ตัวจนทางครอบครัวต้องให้กินยานอนหลับ เนื่องจากผู้เป็นแม่บอกว่าน่าจะถูกป้ายยา เพราะระหว่างนั่งอยู่ในรถได้ถูกหญิงสาวซึ่งเป็นมิจฉาชีพจับมือและลูบแขนจนเกิดอาการงุนงง
และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตลาดผลไม้ตะพง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน 5 กธ 7952 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะ แต่เมื่อตรวจสอบป้ายทะเบียนกลับพบว่าเป็นรถของบริษัทให้เช่ารถแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (6 ก.ค.) พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วย ร.ต.ต.ชัชชัย ทองไชย รอง สว.(ป) สภ.เมืองระยอง และ ด.ต.สุรวุฒิ พฤกษาชาติ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองระยอง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ นางสวรรค์ พงษ์ศิลา ยายชาวสวนวัย 71 ปี ที่บ้านพักใน ต.ตะพง อ.เมืองระยอง
โดยมี น.ส.สรวงสุดา พงษ์ศิลา อายุ 35 ปี ลูกสาวให้การต้อนรับ พร้อมบอกว่าแม่ของตนเองยังคงหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาและอยู่คนเดียวไม่ได้เนื่องจากแม่ป่วยด้วยโรคทางสมองอยู่ก่อนหน้าแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจหมั่นเข้ามาดูแลคุณยาย และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจเนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจย้อนกลับมาอีก
ส่วนในเรื่องการติดตามตัวผู้ก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงแกะรอยทะเบียนรถซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุจับภาพไว้ได้ทั้งที่บริเวณตลาด และธนาคารที่คนร้ายพาคุณยายไปเบิกเงินเพื่อให้สามารถนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
