กาฬสินธุ์ - ปลูกต้นไม้ฟีเวอร์! ประชาชน ชาวกาฬสินธุ์ และขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เดินทางไปรับกล้าไม้ฟรีจากศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม เพื่อนำไปปลูกไว้เป็นสมบัติของแผ่นดินและมรดกให้ลูกหลาน
โดยสั่งจองได้ไร่ละไม่เกิน 200 ต้น หรือคนละไม่เกิน 1,000 ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม นายพงศ์ปกรณ์ ผิวผ่อง หัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ ให้บริการประชาชน ตรวจเช็กหลักฐานเอกสารที่ดินที่เข้ามาติดต่อรับกล้าไม้ไปปลูก หลังเปิดจองคิวรับกล้าไม้ฟรีเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยพบว่าวันแรก (3 ก.ค.) ที่เปิดให้มารับกล้าไม้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมีผู้จองคิวไว้เดินทางมารับต้นกล้าจำนวนมาก
นายพงศ์ปกรณ์ ผิวผ่อง หัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ทำการเพาะชำต้นกล้าไม้ชนิดต่างๆ ไว้แจกจ่ายส่วนราชการ ประชาชน นำไปปลูกในโอกาสต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า รักษาระบบนิเวศ ปลุกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ป้องกันปัญหาโลกร้อนและภัยธรรมชาติ โดยศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคามได้ทำการเพาะชำกล้าไม้ประมาณ 50 ชนิด เช่น สัก ยางนา ยูคาลิปตัส พะยูง มะค่าโมง ไผ่ มะขามป้อม แคนา และอื่นๆ จำนวน 1 ล้านต้นกล้า สำหรับแจกฟรีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 66
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับแจกกล้าไม้ดังกล่าว ต้องเป็นส่วนราชการและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ที่เข้าคิวจองเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประชาชนให้ความสนใจปลูกต้นไม้
ด้านนายปกรณ์ศักดิ์ ถิ่นอภัย ข้าราชการบำนาญ ชาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมารับกล้าไม้ยูคาลิปตัสเพื่อนำไปปลูกในที่ดินซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาภูพาน อ.สมเด็จ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับที่ดิน ถึงแม้จะเป็นการปลูกแบบคนปลูกไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ปลูก แต่ก็เป็นความสุขใจที่ได้ปลูกต้นไม้เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน เช่น เพิ่มพื้นที่สีเขียว รักษาระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาหารป่า และเป็นมรดกให้ลูกหลาน เพราะต้นไม้ทุกต้นนอกจากจะมีคุณค่าทางจิตใจแล้ว ยังมีมูลค่าทางทรัพย์สินอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับแจกกล้าไม้ดังกล่าว ต้องเป็นส่วนราชการและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ที่เข้าคิวจองเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประชาชนให้ความสนใจปลูกต้นไม้
ด้านนายปกรณ์ศักดิ์ ถิ่นอภัย ข้าราชการบำนาญ ชาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมารับกล้าไม้ยูคาลิปตัสเพื่อนำไปปลูกในที่ดินซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาภูพาน อ.สมเด็จ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับที่ดิน ถึงแม้จะเป็นการปลูกแบบคนปลูกไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ปลูก แต่ก็เป็นความสุขใจที่ได้ปลูกต้นไม้เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน เช่น เพิ่มพื้นที่สีเขียว รักษาระบบนิเวศ เป็นแหล่งอาหารป่า และเป็นมรดกให้ลูกหลาน เพราะต้นไม้ทุกต้นนอกจากจะมีคุณค่าทางจิตใจแล้ว ยังมีมูลค่าทางทรัพย์สินอีกด้วย
จากการสอบถามผู้คนที่มารับกล้าไม้ในครั้งนี้ พบว่ามีอดีตข้าราชการ ประชาชน ชาว จ.กาฬสินธุ์และต่างจังหวัด ที่จองคิวรับกล้าไม้เดินทางมาแสดงตนรับกล้าไม้เป็นจำนวนมาก สำหรับตนและญาติปีนี้จองได้เพียง 400 ต้นเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในปีหน้าเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสก็ได้สั่งจองข้ามปีไว้
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปและส่วนราชการมารับต้นกล้าไม้ในวันนี้ ซึ่งเป็นการแจกจ่ายฟรี ตามจำนวนที่สั่งจองหรือไร่ละ 200 ต้น หรือไม่เกินคนละ 1,000 ต้น พบว่ามีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยพบว่ามีผู้เดินทางมาจาก 4 จังหวัดในพื้นที่บริการของศูนย์เพาะชำกล้าไม้มหาสารคาม คือ จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม มาเข้าคิวรอแต่เช้า โดยในวันแรกมีผู้เดินทางมารับกล้าไม้ประมาณ 100 ราย ทั้งนี้จะเปิดให้ผู้สั่งจองเดินทางมารับกล้าไม้ตามคิวไปจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 66 นี้
