พิษณุโลก - จับร้านขายมือถือลักลอบจำหน่ายยา "ทรามาดอล" ผสมยาแก้ไอให้นักเรียนพิษณุโลก ชุดละ 100 บาท โรงเรียนทนไม่ไหวแจ้งเจ้าหน้าที่จับ
เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก, ป.ป.ส.ภาค 6, ตำรวจสืบสวนภาค 6, ตำรวจ ปส.พิษณุโลก, ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด แถลงข่าวค่ำวานนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสืบสวนภาค 6
กรณีลักลอบจำหน่ายยาอันตราย ได้แก่ ทรามาดอล, B5, ยาแก้ไอ ซึ่งจะมีฤทธิ์ลดความปวด รวมทั้งมีฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาทและมีผลทำให้เกิดอาการเคลิ้มสุข (euphoria) ได้ด้วย การออกฤทธิ์นี้เหมือนกับการออกฤทธิ์ของยามอร์ฟีน (morphine) แต่ทรามาดอลจะมีความแรงน้อยกว่ามอร์ฟีนประมาณ 10 เท่า ทำให้ยานี้ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษเหมือนกับมอร์ฟีน (ตามกฎหมายนั้นยาทรามาดอลจัดเป็นยาอันตรายและสามารถจำหน่ายได้ในร้านยา)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านกลางเมืองพิษณุโลก ว่ามีร้านค้าชื่อดังข้างโรงเรียนแอบขายเครื่องดื่มที่เป็นยากระตุ้นปราสาท คือยาแก้ไอผสมทรามาดอล และ Benzhexol5 หรือ B5 (บีไฟฟ์) ซึ่งยาทั้ง 2 ตัวเป็นยาหลอนประสาท และเป็นยาต้องห้ามของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากยาดังกล่าวมีผลต่อระบบปราสาท
และทราบว่ามีนักเรียนแอบไปซื้อยาดังกล่าวมากิน และมีอาการข้างเคียงหลายราย โดยเฉพาะมีอาการเฉื่อยชา มีผลทางประสาท ส่วนใหญ่ใช้ยาประเภทนี้กับผู้ป่วยจิตเวช จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
โดยร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือบังหน้า ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล่อซื้อ ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ยาน้ำแก้แพ้ จำนวน 88 ขวด ยาทรามาดอล 700 เม็ด ยา B5 จำนวน 920 เม็ด กล่องที่ร้านดังกล่าวขายยาไปแล้วจำนวนกว่า 20 กล่อง
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าขายยาดังกล่าวให้นักเรียนมากว่า 2 ปีแล้ว ในราคาชุดละ 100 บาท (ยาแก้ไอ- ทรามาดอล) ส่วน B5 ในราคา 10 เม็ด ราคา 40 บาท ทำให้เดือนหนึ่งมีรายได้หลายพันบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อผู้ลักลอบขายให้นักเรียนในข้อหา ผิด พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 ข้อหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
