ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - หนุ่มครบุรีทุ่มทุน 10 ล้านเปิดล้งทุเรียนแห่งแรกของโคราช รับซื้อทุเรียนโคราชส่งโกอินเตอร์และตลาดในประเทศ ตั้งเป้าปีแรก 100 ล้าน เผยประเดิมส่งทุเรียนไปจีนล็อตแรก 18 ตัน กว่า 4 ล้าน ขณะ จ.นครราชสีมามีพื้นที่ปลูกทุเรียนกว่า 5,000 ไร่ ให้ผลผลิตแล้ว 2,000 ไร่ ประมาณ 1,250 ตันต่อปี
วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดล้งรับซื้อทุเรียนแห่งแรกของจังหวัดนครราชสีมา ที่โรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออก (ล้งทุเรียน) ของ บริษัท เกษตรก้าวกล้า เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 80 หมู่ที่ 8 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยโรงคัดบรรจุผลไม้จุดนี้ถือเป็นจุดรับซื้อและคัดทุเรียนเกรดพรีเมียมเพื่อส่งจำหน่ายให้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นการรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นส่วนใหญ่ ในราคารับซื้อที่เป็นธรรมต่อเกษตรกร อีกทั้งยังเป็นทางเลือกในการจำหน่าย ลดภาระต้นทุนค่าขนส่งผลผลิตของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โรงคัดบรรจุทุเรียนแห่งนี้ลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท และตั้งเป้าจะรับซื้อทุเรียนและส่งไปจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในปีแรกมูลค่าไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดฤกษ์ปิดตู้ส่งทุเรียนล็อตแรกไปประเทศจีนจำนวน 18 ตัน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
นายพงศธร ตรีเพิ่มทรัพย์ อายุ 30 ปี ผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออก หรือล้งทุเรียน บริษัท เกษตรก้าวกล้า เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า แนวคิดของการเปิดกิจการล้งทุเรียนที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมานั้น เกิดขึ้นเนื่องจากเล็งเห็นว่าพื้นที่การปลูกทุเรียนที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าน่าจะมีทุเรียนใกล้เคียงกับทางจังหวัดจันทบุรีในอนาคต แต่คู่แข่งทางการค้านั้นมีเพียง 5 รายเท่านั้น
ดังนั้นในเมื่อเรามีพื้นที่เพาะปลูก มีช่องทางตลาดพร้อมอยู่แล้ว ทำไมจึงไม่ลองเปิดกิจการนี้ขึ้น ประกอบกับคุณภาพทุเรียนของอำเภอครบุรี รวมถึงทั่วทั้งจังหวัดนครราชสีมา เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติที่โดดเด่น กลิ่นไม่ฉุน เนื้อละเอียด เส้นใยน้อย รสชาติดี จึงทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าราคาสินค้าให้มากขึ้นได้ เป็นที่สนใจของตลาด และสามารถหาคู่ค้าได้ไม่ยาก โดยตอนนี้ทางล้งเปิดรับซื้อทุเรียนทุกเกรด รวมถึงหากเกษตรกรรายใดเกิดปัญหาหนอนแมลงกัดกินทุเรียนก็สามารถนำมาจำหน่ายได้ เพราะทางล้งจะมีการแปรรูปทุเรียนเพื่อนำไปจำหน่ายอีกรูปแบบด้วย
สำหรับตลาดที่ตั้งเป้าหมายไว้ส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังประเทศจีน ส่วนในประเทศจะเป็นตลาดที่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต เป็นต้น ส่วนออเดอร์ก็เริ่มเข้ามาบ้างแล้ว ประมาณ 7-8 ตู้ต่อเดือน ซึ่งหากเป็นเกษตรกรในจังหวัดนครราชสีมา และมีใบรับรองคุณภาพสินค้า หรือ GAP ก็จะได้รับราคาเพิ่มจากราคาปกติ ที่รับซื้อแบบคัดเกรด เริ่มตั้งแต่กิโลกรัมละ 40 บาท ไปจนถึง 140 บาท โดยตั้งเป้าการส่งจำหน่ายในปีแรกประมาณ 40 ตู้ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
ทางด้าน นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี กล่าวว่า การเปิดล้งทุเรียนครั้งแรกของจังหวัดนครราชสีมา ที่อำเภอครบุรี ถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในพื้นที่อย่างมาก เพราะจะได้มีตลาดใกล้บ้าน ให้ราคาดี และสามารถลดต้นทุนค่าขนส่ง ทำให้มีรายได้จากการขายทุเรียนมากขึ้น ขณะเดียวกันมาตรฐานของล้งรับซื้อก็จะเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้คุณภาพทุเรียนของพื้นที่เป็นที่รู้จักไปไกลทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
ขณะที่นายธวัชชัย ผิวแดง เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนตำบลสระว่านพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บอกว่า การที่มีล้งทุเรียนเกิดขึ้นในพื้นที่ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อเกษตรกรอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดภาระค่าขนส่งลงได้อย่างมาก อีกทั้งเกษตรกรยังได้ราคาดี เพราะมีการติดต่อผ่านทางล้งโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันการบริการของทางล้งก็ดีมีมาตรฐานอย่างมาก
สำหรับพื้นที่อำเภอครบุรี ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ไร่ กระจายอยู่ทั้งสิ้น 10 ตำบล ให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 1,350 ไร่ ผลผลิตประมาณ 742 ตัน สร้างรายได้กระจายในพื้นที่กว่า 112 ล้านบาท/ปี พื้นที่ปลูกมากที่สุดอยู่ที่ตำบลลำเพียก ประมาณ 800 ไร่ รองลงมาคือตำบลสระว่านพระยา ประมาณ 250 ไร่ ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 130-150 บาท เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในอำเภอครบุรีที่ให้ผลผลิตแล้วมีการขอรับรองมาตรฐาน GAP ซึ่งได้ดำเนินการตรวจประเมินแปลงไปแล้วในเดือนพฤษภาคม
ขณะที่ทั้งจังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ปลูกทุเรียนกว่า 5,000 ไร่ ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 2,000 ไร่ จำนวนผลผลิตประมาณ 1,250 ตันต่อปี