xs
xsm
sm
md
lg

“พระพุทธมงคลนิมิต” พระพุทธรูปองค์ใหญ่บนไหล่เขาสุพรรณ จุดที่ใครผ่านไปชลบุรีต้องมองเห็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาพของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนไหล่เขา ที่มีทั้งความสง่างามและความน่าเลื่อมใส โดยพระพักตร์หันหน้าออกสู่ทะเล เชื่อว่าเป็นภาพชินตาที่ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวซึ่งขับรถยนต์ส่วนตัวหรือแม้แต่เดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะเข้ามาใน จ.ชลบุรี จะต้องสังเกตเห็นได้แต่ไกล และเชื่อว่าหลายคนคงเคยตั้งคำถามในใจว่า พระพุทธองค์ดังกล่าวอยู่ ณ จุดใดของ จ.ชลบุรี

วันนี้ Manager Online มีคำตอบ โดยพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนไหล่เขามีพระนามว่า “พระพุทธมงคลนิมิต” (ปางประทับเรือขนาน) องค์เดียวที่ใหญ่ในประเทศไทย ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2499 โดยพระพิมลธรรม (ชอบ อนุจารีเถง) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมโกศาจารย์ ตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดชลบุรีในสมัยนั้น ซึ่งได้เป็นประธานในการก่อสร้าง และมี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นผู้วางศิลาฤกษ์ และได้ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาในพุทธศาสนา สมัยกึ่งพุทธกาล 2500 มีความสูง 12 วา 2 ศอก

ประดิษฐานอยู่บนไหล่เขาชื่อเขาสุพรรณ เชิงเขาวัดธรรมนิมิตต์ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อเป็นพระประจำภาคตะวันออก ให้สาธุชนได้สักการบูชา ซึ่งวัดธรรมนิมิตต์ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2448 ภายในวัดเป็นสถานที่กว้างขวาง ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ มีเนื้อที่ประมาณ 110 ไร่ เป็นเขตวิปัสสนากรรมฐานของพระภิกษุสงฆ์ อยู่ติดถนนศุขประยูร (ชลบุรี-พนัสนิคม)

กระทั่งเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2513 “พระพุทธมงคลนิมิต” ได้หงายหลังล้มทลายเนื่องจากช่างได้คำนวณผิดพลาดจนต้องทำการบูรณะช่วงของฐาน และพระเพลาใหม่


ต่อมาในปี 2514 จึงได้มีการก่อสร้างองค์พระขึ้นใหม่ทั้งองค์ โดยมี จอมพลประภาส จาธุเสถียร ซึ่งสมัยนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในการก่อสร้างโดยใช้งบประมาณ 3,300,000 บาท โดยมีผู้ออกแบบสร้างใหม่คือ ท่านราชบัณฑิตย์ ศาสตราจารย์ประกิจ (จิตร) บัวบุศย์ เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์

เป็นพระพุทธรูปคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกทอง ปางประทับเรือขนาน ประทับนั่งบนบัลลังก์ พระบาททั้งสองวางอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำที่พระชานุ พระหัตถ์ขวาวางช่อยู่บนบัลลังก์ข้างกายพระองค์ ขนาดความสูง 17 วา หรือ 34 เมตร

สำหรับความเป็นมาของพระพุทธรูปปางประทับเรือขนาน ได้มีการกล่าวไว้ในพุทธประวัติว่า เมื่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ พระเวฬุวนารามวิหาร กรุงราชคฤห์ พระเจ้าสุทโธทนะ ได้อาราธนาทูลเชิญพระพุทธเจ้าพร้อมกับพระภิกษุ 20,000 รูปเดินทางไปกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปโปรดแสดงธรรมแก่พระองค์และประชาชนในเมือง

เมื่อถึงสุดแคว้นมคธ มีแม่น้ำใหญ่ขวางอยู่ จึงได้เสด็จประทับนั่งบนเรือขนานข้ามแม่น้ำ ได้ ใช้เวลาถึง 2 เดือนจึงจะถึง


และอีกตอนหนึ่งนั้น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำพรรษาอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร "เจ้าลิชฉวี" ได้ทูลอาราธนาพระองค์ให้ไปช่วยดับทุกข์ ณ นครเวสาลี แคว้นวัชชี เนื่องจากเกิดภัยพิบัติ 3 ประการ ได้แก่ 1.ทุพภิกขภัย คือ ข้าวยากหมากแพง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนหิวโหยล้มตาย

2.อมนุษยภัย คือ เหล่าภูตผีปีศาจเข้ามาหลอกหลอนชาวบ้าน

และ 3.อหิวาตกภัย คือ เกิดอหิวาตกโรคระบาด ชาวเมืองเจ็บป่วยล้มตายกันมาก ซึ่งการเสด็จครั้งนี้ต้องทรงประทับเรือเพื่อเดินทางโดยน้ำจนมาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย


ปัจจุบัน “พระพุทธมงคลนิมิต” (ปางประทับเรือขนาน) วัดธรรมนิมิตต์ จ.ชลบุรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนาที่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักแวะเวียนกันเข้ามากราบไหว้บูชา โดยเฉพาะในช่วงวันสำคัญทางพระพทุธศาสนาที่ทางวัดจะจัดกิจกรรมเพื่อรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมและประเพณีอันดีงาม

โดยทางวัดได้พัฒนาเส้นทางเดินขึ้นเขาเพื่อขึ้นไปกราบไหว้สักการะองค์พระได้อย่างสะอาดตา ปลอดภัย และมีความร่มรื่นไปด้วยเหล่าแมกไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งมีจุดเช็กอินเพื่อเอาใจกลุ่มชาวโซเชียล ส่วนใครที่ไม่อยากเดินขึ้นเขาสามารถขับรถยนต์ขึ้นไปจอดบริเวณลานกว้างใกล้องค์พระได้อย่างสบายๆ 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ที่ขึ้นมากราบไหว้บูชายังได้ถ่ายภาพวิวสวยงามที่ด้านหน้าองค์พระเป็นท้องทะเลเขตเมืองชลบุรี และยังได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ รับลมโชยเย็นสบายบนเขาได้อีกด้วย

ที่สำคัญทางวัดยังมีจุดบริการดอกไม้ธูปเทียน เพื่อให้ประชาชนได้นำขึ้นไปกราบไหว้บูชาโดยไม่ต้องลำบากซื้อหามาจากด้านนอก และสำหรับคอกาแฟโบราณมีร้านค้าเล็กๆ เปิดขายให้ได้ชื่นใจท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงเช่นกัน 
















กำลังโหลดความคิดเห็น