เชียงใหม่ - ชนเผ่าพื้นเมืองประเทศไทยรับอบอุ่น พร้อมจัดพิธีมัดมือเรียกขวัญตามประเพณีม้งให้ "พิธา" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ก่อนนั่งล้อมวงพูดคุยรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียม
วันนี้ (15 มิ.ย. 66) เวลาประมาณ 11.30 น. ที่สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT) ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล นำคณะเข้าร่วมพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังประเด็นปัญหาต่างๆ จากตัวแทนกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองและชาติพันธุ์ต่างๆ กว่า 10 ชาติพันธุ์จากประมาณ 40 ชาติพันธุ์ในประเทศไทย ที่เป็นเครือข่ายและทำกิจกรรมร่วมกับสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (สชพ.)
เมื่อนายพิธาเดินทางถึงได้มีการต้อนรับด้วยการจัดพิธีมัดมือ (คีฮลัว) หรือการสู่ขวัญตามประเพณีม้งให้โดยผู้รู้ภูมิปัญญาม้งบ้านม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่เข้าร่วมวงพูดคุยหารือ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการพูดคุยแล้วยังได้นั่งล้อมวงร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่เป็นเมนูอาหารพื้นเมืองของชนเผ่าต่างๆ ร่วมกัน ก่อนที่นายพิธา พร้อมคณะจะเดินทางต่อไปที่ตลาดสดเทศบาลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะประชาชนและขอบคุณที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกล ทั้งในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.และพรรค ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66
ทั้งนี้ นายศักดิ์ดา แสนมี่ เลขาธิการสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การพูดคุยกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เพื่อนำเสนอประเด็นปัญหาต่างๆ ของชนเผ่าพื้นเมือง เช่น ที่ดิน, สัญชาติ, การคุ้มครองวิถีชีวิต, การเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการสังคม เป็นต้น ทั้งในเชิงนโยบายและทางปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียม นำไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์ นอกจากนี้ยังฝากติดตามเรียกร้องความเป็นธรรมให้นักกิจกรรมชนเผ่าในคดีที่เสียชีวิตหรือสูญหายด้วย
ด้านนายพิธาเปิดเผยหลังการพูดคุยแล้วฟังประเด็นปัญหาว่า พี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยมีทั้งสิ้นกว่า 7 ล้านคน จาก 40-50 ชนเผ่าใน 26 จังหวัดทั่วประเทศ หรือคิดเป็นประมาณ 10% จากคนไทยทั้งหมด 66 ล้านคน ดังนั้นประเด็นปัญหาต่างๆ ของผู้คนกลุ่มนี้ ทั้งที่ดิน สัญชาติ หรือการบริหารจัดการพื้นที่ป่าและอุทยานฯ จึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากได้รับการขับเคลื่อนแก้ไขจะเป็นการส่งเสริมสิทธิความเป็นพลเมืองให้เพิ่มขึ้น โดยที่ความเป็นชนเผ่าไม่ได้ลดลง โดยยังเป็นการบ่งบอกถึงความเข้มแข็งและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ อยากตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว ด้วยความตั้งใจที่จะไปขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อส่งเสริมผลักดันสิทธิพลเมืองของประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่า
