จันทบุรี - ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนใน จ.จันทบุรี ทำพิธีปล่อยขบวนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 28 ตู้ บรรจุทุเรียนจากภาคตะวันออกกว่า 500,000 กก. มูลค่ากว่า 85 ล้านบาท ขึ้นรถไฟโซ่เย็นขบวนพิเศษไปประเทศจีน คาดอนาคตสดใสการขนส่งออกผลไม้ไทยทางราง ทั้งประหยัด- รวดเร็ว
วันนี้ (7 มิ.ย.) บริษัท นิรันดร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือ หงจิ่ว อินเตอร์ ฟรุ๊ต ได้ทำพิธีปล่อยขบวนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 28 ตู้ ที่บรรจุทุเรียนน้ำหนักรวม 504,000 กิโลกรัม จากภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 85 ล้านบาท ขึ้นขบวนรถไฟสายจีน-ลาว-ไทย จาก จ.จันทบุรี ไปประเทศจีน
โดยขบวนรถไฟดังกล่าวเป็นเที่ยวพิเศษแบบเช่าเหมาขบวน ซึ่งบริษัท หงจิ่ว อินเตอร์ ฟรุ๊ต ได้จับมือร่วมกับรัฐบาลจีน และบริษัท ฉงชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนลโลจิสติก จำกัด ได้ทำการส่งทุเรียนไปขายประเทศจีน และคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 วัน เดินทางถึงนครเฉิงตู ประเทศจีน ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้
นายโหย่ว ชื่อฉาง ผู้จัดการบริษัท นิรันดร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่าบริษัทฯ ได้ส่งออกทุเรียนไปประเทศจีนด้วยระบบขนส่งทางรางมาโดยตลอด และในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนรถไฟเที่ยวพิเศษจากรัฐบาลจีน ที่จับมือร่วมกับบริษัท หงจิ่ว อินเตอร์ฟรุ๊ต เช่าเหมาขบวนรถไฟบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุทุเรียนจาก จ.จันทบุรี ไป จ.หนองคาย เพื่อเข้าสู่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
จากนั้นจึงวิ่งเข้าสู่เมืองเจียงจิน-ฉงชิ่ง-เฉิงตู และเมืองเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งการขนส่งทุเรียนทางรางนอกจากจะเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว ในอนาคตยังเชื่อว่าจะมีการขนส่งทุเรียนจากไทย-จีน แบบเหมาขบวนรถไฟเพิ่มขึ้นอีกมาก
“ทุเรียนไทยมีรสชาติอร่อยเนื่องจากสภาพอากาศดี ประกอบกับผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐยังช่วยกันควบคุมคุณภาพทุเรียนส่งออกอย่างเข้มงวด จนทำให้ราคาทุเรียนของไทยมีมูลค่าสูงกว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าอื่นๆ และยังเชื่อว่าราคาทุเรียนไทยจะดีเช่นนี้ต่อไป และยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนที่ขณะนี้ยังมีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่ได้รับประทานทุเรียนไทย” นายโหย่ว ชื่อฉาง กล่าว
เช่นเดียวกับ นายปัญญา ประดิษฐสาร เกษตรจังหวัดจันทบุรี ที่เผยถึงสถานการณ์การส่งออกผลไม้ใน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ต้นฤดูกาลจนถึงช่วงปลายฤดูกาลในปีนี้ว่า เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการร่วมกันในการควบคุมคุณภาพผลผลิตจนได้รับคำชมจากตลาดปลายทางในประเทศจีน โดยเฉพาะทุเรียนจาก จ.จันทบุรี ที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
“อย่างไรก็ตามขอให้เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการร่วมกันรักษาคุณภาพของผลผลิตให้ดีเช่นนี้ต่อไป และแม้ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงปลายฤดูแล้วแต่ จ.จันทบุรี ยังคงเข้มงวดในการตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในทุเรียนต่อไปจนกว่าจะจบฤดูกาลผลไม้ช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้” เกษตรจังหวัดจันทบุรี กล่าว
ด้าน นายภานุวัชร ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกมังคุด ทุเรียนแห่งประเทศไทย เผยว่า ฤดูกาลผลไม้ในปี 2566 ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการส่งออกแล้วกว่า 700,000 ตัน และขณะนี้ยังเหลือผลผลิตทุเรียนที่รอออกสู่ตลาดอีกเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นจะจบฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกแล้ว
พร้อมยืนยันว่าการควบคุมคุณภาพผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี จะเป็นโมเดลให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ในการควบคุมคุณภาพผลผลิตเช่นกัน โดยเชื่อว่าทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านจะไม่สามารถตีตลาดทุเรียนไทยได้ หากผู้ประกอบการ และเกษตรกรร่วมมือกันรักษาคุณภาพเช่นนี้ตลอดไป
