ศูนย์ข่าวศรีราชา - โคตรดื้อ! “บ้านสุขาวดี” แอบส่งช่างเข้าซ่อมแซมต่อเติมเวทีอาคารรุกที่สาธารณะและก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่เมืองพัทยาเพิ่งเข้าทำการรื้อถอนได้ไม่ถึง 3 วัน หลังศาลปกครองสูงสุดยกเลิกคำสั่งคุ้มครองอาคารบนพื้นที่พิพาท 11 ไร่ริมทะเล
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่ปิดหมายประกาศตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แบบ ค.3 ค.4 ค.7 และ ค.10 ในอาคาร 3 หลัง ซึ่งตั้งอยู่ภายใน “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังตรวจพบว่าอาคารเหล่านี้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ และมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนั้น ยังพบว่าตัวอาคารยังไม่ได้เว้นระยะ 20 เมตร ตามแนวร่นจากระดับน้ำทะเลตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมืองพัทยาได้ทำการติดประกาศแจ้งเป็นรอบที่ 2 แต่บ้านสุขาวดี ในนามบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี กระทั่งมีการพิจารณาว่าประกาศคำสั่งของ เมืองพัทยา ยังไม่ครบองค์ประกอบและเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วน จึงให้มีการดำเนินการออกคำสั่งใหม่นั้น
และเมื่อวันนี้ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร และนายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว วิศวกรโยธาชำนาญการ นายกฤษดาศักดิ์ เกตุจินดา นายช่างโยธาและเจ้าหน้าที่สำนักการช่าง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย นำเครื่องมือและเครื่องจักรหนักเข้าทำการรื้อถอนอาคาร A อย่างเป็นรูปธรรม
และได้ทำการรื้อแผ่นกระเบื้องพื้นเวที รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่จัดวางไว้ และการตัดน้ำตัดไฟที่ใช้บนเวทีออกทั้งหมด โดยมีทนายความของบ้านสุขาวดี เข้าสังเกตการณ์และพยายามที่จะขอให้เมืองพัทยา ชะลอเวลาการรื้อถอนออกไปก่อนเพราะเกรงว่าอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเกินความจำเป็น พร้อมอ้างว่าปัจจุบัน บ้านสุขาวดียังเปิดพื้นที่บางส่วนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชม แต่เจ้าหน้าที่เมืองพัทยาไม่สามารถยืดเวลาออกไปอีกได้นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยากว่า 20 คน ได้นำอุปกรณ์และเครื่องจักรหนัก เช่น รถแบ็กโฮ รถบรรทุก เดินทางมาบ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้งเพื่อทำการรื้อถอนอาคารหลังดังกล่าวอีกรอบ
นายสุริยา เผยว่า หลังจากที่เมืองพัทยาได้เข้าทำการรื้อถอน ตัดน้ำ ตัดไฟ พร้อมมีคำสั่งห้ามการก่อสร้าง ต่อเติม หรือใช้อาคาร A ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารอย่างเข้มงวด แต่ปรากฏว่า “บ้านสุขาวดี” กลับมีการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งโดยได้มอบหมายให้คนงานเข้ามาทำการซ่อมแซมและปรับปรุงอาคาร รวมทั้งเวทีการแสดงให้สามารถกลับมาใช้งานใหม่ได้ ทั้งที่เมืองพัทยาเพิ่งทุบทำลายไปบางส่วน
“หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบอาคารเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เมืองพัทยา จึงได้เร่งนำเจ้าหน้าที่เข้ามารื้อถอนอีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้จะมีการทุบทำลายอาคารเพื่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นจนไม่สามารถกลับมาใช้งานได้อีก และยังขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสนับสนุนภารกิจในกรณีที่หากพบว่ามีการขัดขวางจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด”
นายสุริยา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมอาคาร ส่วนควบคุมอาคารสำนักการช่างเมืองพัทยา ในฐานะนายตรวจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง
หลังพบว่ามีบุคคลซึ่งน่าเชื่อได้ว่าเป็นพนักงานของบริษัท เฮลธ์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแล “บ้านสุขาวดี” ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าปรับปรุงอาคารเวที ซึ่งเมืองพัทยาได้ทำการรื้อถอนไปเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
“การกระทำดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้ หรือยินยอมให้บุคคลใดเข้าไปในอาคารที่เมืองพัทยา ได้ออกคำสั่งห้ามใช้อาคาร (แบบ ค.4) ซึ่งในส่วนนี้จะได้ใช้ประกอบการแจ้งความร้องทุกข์กรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารต่อไป” นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมืองพัทยายังเตรียมที่จะดำเนินการตามกฎหมายในกรณีที่มีบางหน่วยงานจัดทำโครงป้ายเหล็กขนาดใหญ่ภายในโครงการบ้านสุขาวดี หลังพบแนวป้ายคร่อมพื้นที่ทางสาธารณะที่ติดกับซอยสุขุมวิท 8 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไปด้วยเช่นกัน