ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โพสต์เฟซบุ๊ก แจงกรณีนักเรียนหญิงชาวบุรีรัมย์สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ แต่ผลตรวจร่างกายพบสารเสพติด ผู้ปกครองย้ำไม่มีประวัติเสพยา ชี้สาเหตุมาจากกินยาผิวขาว หวั่นถูกตัดสิทธิ ล่าสุดยังไม่ตัดสิทธิ แต่ต้องตรวจร่างกายซ้ำที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.
ความคืบหน้ากรณี นางสาวนันท์นภัส ไชยทะเศรษฐ อายุ 45 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มารดาของนางสาวอามานา มุภาษา อายุ 19 ปี ได้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่ง พร้อมกับผลการตรวจร่างกายของลูกสาวจากแพทย์โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง ว่าในปัสสาวะพบสาร “เมทแอมเฟตามีน” มาร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน เนื่องจากลูกสาวสอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เตรียมเข้ามอบตัววันที่ 30 พ.ค.นี้ แต่ตามระเบียบจะต้องมีใบยืนยันการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลแนบมาด้วย เกรงว่าทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น จะไม่รับรองการเข้าเรียน โดยทั้งแม่และลูกยืนยันว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด และเชื่อว่าสาเหตุพบสารเสพติด มาจากกินยาผิวขาวที่สั่งซื้อมาทางเน็ต
ผศ.ดร.นรินทร์ จันทร์ศรี คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณีดังกล่าว ระบุว่า “ตามที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อโชเชียล ว่ามีนักเรียนชั้น ม.6 สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ผลการตรวจร่างกายพบสารต้องห้าม จึงถูกตัดสิทธิเข้าศึกษานั้น ทางคณะขอชี้แจงให้ทุกท่านได้ทราบว่า ตามกำหนดการสอบสัมภาษณ์ TCAS 3 ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ได้กำหนดเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2566
ได้ให้นักเรียนที่มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ยื่นผลการตรวจร่างกายในวันสอบด้วย ซึ่งทางคณะยังไม่ได้ดำเนินการสัมภาษณ์หรือตัดสิทธิผู้เข้าสอบคนใดทั้งสิ้น เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด และยังไม่ปรากฏผู้มีสิทธิเข้าสอบหรือผู้ปกครองท่านใด ที่มาขอหารือเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด” ผศ.ดร.นรินทร์ระบุ
อย่างไรก็ตาม การสอบสัมภาษณ์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถ้าปรากฏว่ามีผู้เข้าสอบที่ผลการตรวจร่างกายไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทางคณะจะขอให้ไปตรวจร่างกายซ้ำเพื่อยืนยันผลที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต่อไป โดยไม่ได้ตัดสิทธิการเข้าเรียนทันที
