ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พ่อแม่และญาติรับร่าง “น้องเกล” 9 ขวบ ถูกไฟฟ้าจากเสาไฟส่องสว่างสนามกีฬาหมู่บ้านช็อตเสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพบรรยากาศสุดโศกเศร้า ขณะนายกเล็กพิมายรุดแสดงความเสียใจ แจงต้นเหตุไฟฟ้ารั่วมาจากสายไฟชาวบ้านชำรุดรั่วลงโครงเสา เร่งหาทางเยียวยา ขณะสพป.มอบเงินกองทุนช่วยเหลือ นร.
วันนี้ (24 พ.ค.) ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟฟ้าช็อต ด.ญ.สรัญรัตน์ หรือน้องเกล มุ้งภู่กลาง อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนกุลโน ที่บริเวณสนามกีฬาของหมู่บ้านบ้านส่วย หมู่ที่ 3 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขณะกำลังเล่นกีฬาฟุตบอลกับเพื่อนๆ ประมาณ 9 คน ในลานกีฬาของหมู่บ้านหลังจากฝนหยุดตกแล้วในช่วงหัวค่ำวานนี้ (22 พ.ค.) ซึ่งห่างจากบ้านเพียงแค่ 40 เมตร โดยเพื่อนๆ เห็นน้องเกลถูกไฟฟ้าช็อตหลังจากเอามือไปจับตรงเสาไฟส่องสว่างข้างสนามกีฬา จึงช่วยกันตะโกนเรียกนางสายใจ มุ้งภู่กลาง มารดาของน้องเกล และญาติ ให้รีบมาช่วยกันดึงมือและร่างน้องเกลออกมาจากเสาไฟฟ้า ซึ่งระหว่างนั้นน้องเกลได้หมดสติไปแล้ว พ่อของน้องเกลพยายามปั๊มหัวใจช่วยลูกสาวให้ฟื้นคืนกลับมา แล้วรีบนำขึ้นรถส่วนตัวส่งโรงพยาบาลพิมาย แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งหลังจากชันสูตรแล้ว ญาติได้นำร่างตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดใหม่ประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นั้น
ล่าสุดพ่อแม่และญาติๆ ได้จัดพิธีรดน้ำศพน้องเกล โดยมีพระครูวิจิตรชัยสุนทร เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1 เจ้าอาวาสวัดใหม่ประตูชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายประกิจ พุ่มพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา (สพป.) เขต 7 ได้มอบหมายให้ นายบุญธรรม ยมนัตถ์ รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่ฯ พร้อมด้วย นางสมทรง กิจจาชาญชัยกุล และคณะ มาร่วมในพิธี และนำเงินกองทุนช่วยเหลือนักเรียน สพป.นม.เขต 7 จำนวนเงิน 10,000 บาท มามอบแก่พ่อแม่ของน้องเกล และมี นางสาวกรรณิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย พร้อมด้วยคณะ, พลเอก ชาญชัย ยศสุนทร นายกสมาคมฟันดาบแห่งประเทศไทย, นายดนัย ตั้งเจิดจ้า ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนกุลโน, นายวุฒิชาติ มวยดี ผู้อำนวยการโรงเรียนกุลโนและคณะครู นักเรียน ร่วมในพิธี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทั้งนี้ นางสายใจ มุ้งภู่กลาง แม่ของน้องเกล บอกว่า ยังไม่ได้มีการเรียกร้องขอความช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานใดๆ เพราะยังวุ่นเรื่องเตรียมงานบำเพ็ญกุศลศพของลูกสาวอยู่
นางสาวกรรณิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้ไปร่วมรดน้ำศพและพบกับครอบครัวของน้องเกล รวมถึงชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวแล้ว ซึ่งทุกคนเข้าใจดีว่าเป็นอุบัติเหตุ และไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของทางเทศบาลฯ เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่ฯ ลงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว และพบว่าสายไฟฟ้าที่เทศบาลฯ ติดตั้งยังอยู่ในสภาพใช้งานดี
แต่ตรวจพบสายไฟฟ้าที่ชาวบ้านเดินสายออกมาจากตัวอาคารใกล้เคียง โยงมาพันไว้ที่เสาเหล็กมีการชำรุดเปื่อยจนเห็นเส้นทองแดงภายในจากการใช้งานตากแดดตากฝนมานาน เพราะเป็นสายไฟที่ใช้เดินไฟฟ้าภายในอาคาร จึงไม่มีความทนทานเท่ากับสายไฟที่ใช้ภายนอก จึงเป็นเหตุให้กระแสไฟรั่วลงโครงเสาเหล็ก และเมื่อน้องเกลไปจับที่เสาเพื่อจะปีนไปสับเบรกเกอร์ที่อยู่สูงขึ้นไป 2 เมตร จึงทำให้ถูกไฟดูด จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
เหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้น ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเพราะไม่ใช่เหตุสาธารณภัย แต่อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูข้อกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อหาทางเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวน้องเกลแล้ว
