xs
xsm
sm
md
lg

รวบคาด่านแก่งปันเต๊า! ดาบตำรวจปราบยาสวมเสื้อยืดตราโล่ขับเก๋งขนฝิ่นดิบร่วม 80 กิโลฯ เข้าเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารดักรวบคาด่านฯ แก่งปันเต๊า..ดาบตำรวจปราบยาวัย 50 ใส่เสื้อยืดสกรีนตราโล่ขับเก๋งขนฝิ่นดิบร่วม 80 กิโลฯ ยัดท้ายรถจากฝางมุ่งหน้าเข้าเชียงใหม่ อ้างรับจ้างลำเลียงก้อนละ 1,500 บาท


วันนี้ (16 พ.ค. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 (บก.คปส.1) ร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และทหารกองบังคับการควบคุมสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด (บก.คปส.) ที่ 1 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำการด่านตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ผ่านด่านฯ มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชั้นใน

เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจ พบคนขับเป็นชายชื่อ ด.ต.คมภูศิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยมีผลงานจับกุมคดียาเสพติดมาแล้วหลายราย ซึ่งสวมเสื้อสีขาวที่มีตรา ตร.ด้วย นอกจากนี้พบมีหญิง 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นางกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาว อ.ไชยปราการ นั่งโดยสารมาด้วย

จากการตรวจสอบภายนอกไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ ด.ต.คมภูศิษฐ์แสดงอาการมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจใต้ฝากระโปรงเก็บสัมภาระด้านหลังรถ โดยได้นำสุนัขทหารเข้าดมกลิ่นด้วย กระทั่งพบถุงพลาสติกสีดำอยู่ภายในกระโปรงรถจำนวน 3 ใบ เมื่อเปิดดูภายในถุงก็พบฝิ่นดิบ จำนวน 50 ก้อน แต่ละก้อนหนักประมาณ 1.6 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 80 กิโลกรัม

นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนพก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 2 กระบอก และแมกกาซีน 2 แมก ปืนแมกกาซีน Sig sauer 9 มม. พร้อมแมกกาซีน และปืนแมกกาซีน Baletta 9 มม. พร้อมแมกกาซีนกระสุน 9 มม.จำนวนหนึ่ง เงินสด จำนวน 71,500 บาท

เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวทั้งคู่เอาไว้ สอบสวนเบื้องต้น ด.ต.คมภูศิษฐ์ให้การยอมรับว่ายาเสพติดจำนวนดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยเเจ้งว่ารับมาจากบริเวณข้างทาง อ.ฝาง ได้ค่าจ้างเป็นเงินสดจำนวนก้อนละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 75,000 บาท ใช้ไปบางส่วน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ได้นำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลตรวจค้นบ้านพัก และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีโทษเพิ่มมากกว่าประชาชนทั่วไปแน่นอน




กำลังโหลดความคิดเห็น