กำแพงเพชร – ตำรวจเมืองกล้วยไข่ ดักจับกระบะตู้ทึบคาจุดตรวจหน้าโรงพักคลองขลุง..พบขนบุหรี่ไฟฟ้าค่านับล้านจากโกดังย่านกระทุ่มแบน เตรียมส่งลูกค้าปลายทางกลางเมืองเชียงใหม่ อ้างแค่รับจ้างขนส่งแลกเงิน 5,000 บาท
พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง - พ.ต.อ.นเรศ พูลหน่ายรอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.ต.อ.สมชัย มงคลวงษ์ ผกก.สภ.คลองขลุง พ.ต.ท.สุวิทย์ ทั่งกล่ำ รอง ผกก.ป.สภ.คลองขลุง พ.ต.ท.เชาวลิต รัมวุฒิ รอง ผกก.สส. สภ.คลองขลุง พ.ต.ต.เด่นพงษ์ อนันตวุฒิ สวป.สภ.คลองขลุง, ร.ต.อ.วิเชียร วิชัยวงษ์ รอง สว.จร.สภ.คลองขลุง, ร.ต.อ.จักรพงศ์ เจษฎาพรพงศ์ รอง สวป.สภ.คลองขลุง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวการจับกุมการลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เมื่อเย็นวันที่ 12 พ.ค.66 ที่ผ่านมา
การจับกุมตรวจยึดของกลางดังกล่าวมีขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับเมื่อ 08.00 น.เศษ วันที่ 11 พ.ค.ว่า มีการลักลอบขนย้ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้อง ซุกซ่อนมากับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒท-1629 กรุงเทพมหานคร เดินทางออกจากโกดังสินค้าพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อไปส่งที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและสั่งการให้สืบสวนวางแผนจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ตั้งจุดตรวจ บริเวณถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) กม.415-416 หน้าที่ทำการ สภ.คลองขลุง ต.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กระทั่งพบรถเป้าหมายขับขี่เข้ามา จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ พบนายศรราม (นามสมมุติ )อายุ 20 ปี เป็นคนขับขี่ และนางสาวณัฐกมล (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นั่งเบาะซ้ายด้านหน้าข้างคนขับ
ระหว่างสอบถามเบื้องต้น พบว่านายศรราม และนางสาวณัฐกมล มีท่าทางเป็นพิรุธ ลุกลี้ลุกลน พูดวกไปวนมา มีเหตุอันควรสงสัยเชื่อว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์
ผลการตรวจค้น พบกล่องขนาดใหญ่ จำนวน 50 กล่อง ภายในบรรจุบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อ FEEL+ รวมจำนวน 10,000 ชิ้น ซุกซ่อนไว้ในท้ายกระบะด้านหลัง ซึ่งต่อเติมเป็นตู้ทึบมีประตูปิดเปิดด้านท้าย สอบถามว่าได้นำเข้าและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ผู้ต้องหาแจ้งว่าไม่ทราบ และให้การว่าไปรับบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวมาจากโกดังสินค้า อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อไปส่งที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยคิดค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง” จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การภาคเสธ