ราชบุรี - ตร.โพธารามถูกชาวบ้านล็อกตัว ปิดตา ปืนพกหาย ขณะเข้าตรวจสอบกลุ่มคนนับร้อยรวมกลุ่มในบ้านหลังหนึ่ง โดยได้รับว่าแจ้งอาจมีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมทั้งพบ ปารีณา ไกรคุปต์ ร่วมอยู่ด้วย
เมื่อเวลา 21.00 น.วานนี้ (8 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชุดปฏิบัติการพิเศษ ปราบปรามทุจริตการเลือกตั้งจากทาง จ.ราชบุรี จำนวน 4 นาย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มบุคคลรวมตัวกันที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 8 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งอาจจะมีการกระทำความผิด เป็นพื้นที่เขตการเลือกตั้งที่ 3 จึงได้ไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่ามีการรวมตัวกันจริง จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะขอเข้าตรวจสอบ ทำให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวนับร้อยคนต่างพากันวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตาม เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านั้นมีพิรุธ
และเมื่อวิ่งตามไปถึงหน้าบ้านข้างเคียงดังกล่าว มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน เข้ามาล็อกตัว ส.ต.อ.จารุพัฒน์ ขำแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ที่เข้าไปตรวจสอบ และพยายามที่จะพาเข้าไปบ้านอีกหลังหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ นปพ. อีก 3 นาย ได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นปล่อยตัว ทำให้ ส.ต.อ.จารุพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณคอ กับหัวเข่า และเมื่อตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนประจำกายซึ่งเป็นปืนหลวงนั้นได้หายไป จึงได้ขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม
โดยมี พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รองผกก.สอบสวน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและได้เข้าเจรจากับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรุกในยามวิกาล และได้พบกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส. ราชบุรี อยู่ในพื้นที่นั้นด้วย ซึ่งอ้างว่ามาร่วมงานวันเกิด โดยมีการโต้เถียงกันในกรณีที่ น.ส.ปารีณา อ้างว่า เจ้าหน้าที่นั้นบุกรุกในยามวิกาลโดยไม่มีหมายค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายให้ฟังว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการเลือกตั้ง เพราะได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าอาจจะมีการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งอย่างโจ่งแจ้ง
โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ได้มีการลงบันทึกประจำไว้ก่อนที่จะไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เนื่องจากการพูดคุยนั้นอยู่ในที่มืด และมีกลุ่มบุคคลจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ด้วย พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รอง ผกก.สอบสวน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดได้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีความไม่ปลอดภัย และให้ทางเจ้าของบ้านที่ น.ส.ปารีณา นั้นอ้างว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปบุกรุกนั้นไปแจ้งความที่ สภ.เขาดิน รวมทั้งจะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับให้แจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกายและข้อหาชิงทรัพย์ (อาวุธปืน) ที่หายไปด้วย และจะได้เรียกกลุ่มบุคคลทั้งหมดไปสอบปากคำ