xs
xsm
sm
md
lg

นาทีทอง! ร้อนแล้งมะละกอราคาพุ่งแรงกิโลฯ ละ 17-18 บาทแล้ว ชาวสวนกำแพงเพชรยิ้มส่งขายเที่ยวละเป็นสิบตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กำแพงเพชร - นาทีทองของชาวสวนมะละกอ..หลังอากาศร้อนแล้งจัด ผลผลิตน้อย ทำราคาพุ่งหลายเท่าตัว จากช่วงโควิดเคยขายได้ กก.ละ 2-3 บาท ล่าสุดชาวสวนกำแพงเพชรเก็บขายส่งหน้าสวนได้กิโลฯ ละ 17-18 บาท


สภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัด น้ำหายากเกษตรกรต้องงดการเพาะปลูกไปก่อน ทำให้ผลผลิตต่างๆ ในช่วงนี้จึงออกสู่ตลาดน้อย พืชผักบางชนิดมีราคาแพงมาก อย่างเช่น มะนาว และมะละกอ

ล่าสุดจากการลงพื้นที่สวนมะละกอของนายวุฒิชัย แย้มโกเมนต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/10 หมู่ 1 ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบว่าคนงานกำลังเร่งบรรจุมะละกอใส่ถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม ก่อนที่จะนำขึ้นรถไปส่งตามตลาดต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะได้ประมาณ 14-15 ตัน

ขณะที่คนงานบางส่วนก็กำลังเก็บผลมะละกอที่ได้ขนาด เป็นพันธุ์แขกนวลดำเนิน ที่ใช้สำหรับรับประทานดิบเช่นการทำส้มตำ โดยแต่ละต้นให้ผลผลิตเต็มต้น คนงานจะเลือกเก็บผลที่ได้ขนาด ก่อนขนกลับไปกองไว้เพื่อใส่ถุงส่งขาย

นายวุฒิชัยเปิดเผยว่า ตอนที่เกิดโควิดระบาด มะละกอราคาตกเหลือกิโลกรัมละ 2-3 บาท แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอมีกำไรแต่ไม่มาก แต่ช่วงนี้มะละกอราคาแพง ราคาส่งจากหน้าสวนกิโลฯ ละ 17-18 บาท ทำให้มีกำไรมากหลายเท่าตัว สาเหตุที่ราคาแพงมากในช่วงนี้เพราะของมีน้อยตลาดต้องการมาก พ่อค้าแม่ค้าคนกลางจะนำไปส่งตลาดทางภาคอีสานเพราะต้องการในปริมาณที่มาก ประกอบกับการทำสวนมะละกอไม่ง่าย ต้องดูแลอย่างดี พื้นที่ปลูกต้องมีน้ำ มะละกอไม่ชอบแล้ง แต่ก็ไม่ชอบน้ำมาก ต้องให้น้ำทุกวันแบบพอดีๆ และที่ชาวสวนมะละกอกลัวคือหน้าฝนลมแรง เพราะจะทำให้ต้นมะละกอล้มเสียหายหมด

“ที่สวนของผมต้นมะละกอเพิ่งมีอายุได้ 6 เดือน เก็บไปได้ 2-3 ครั้งแล้ว 15-20 วันเก็บได้ 1 ครั้ง ครั้งละกว่า 10 ตัน โดยต้นมะละกอจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 2 ปี และคาดว่าอนาคตของมะละกอจะดีขึ้นไปอีก”




กำลังโหลดความคิดเห็น