แพร่ - คาราวานรถแห่หาเสียงก้าวไกล สายเหนือถึงแพร่แล้ว..“ช่อ พรรณิการ์” นำทีมขึ้นหาเสียง ย้ำ “พิธา” พร้อมเป็นนายกฯ ยัน กก.สู้ศึกเลือกตั้งเต็มที่ ไม่มีฮั้วทั้งฝ่ายอนุรักษ์ทั้งเสรีนิยม ท่ามกลางโจ๋เมืองแพร่รอรับตรึม กลายเป็นเวทีปราศรัยใหญ่โดยปริยาย
ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เพชร-นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคฯ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งแกนนำสำคัญของพรรค ที่เดินทางร่วมขบวนคาราวานรถแห่หาเสียงของพรรคก้าวไกล สตาร์ทจากเหนือสุดในสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เดินทางถึงจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา
โดยจัดคาราวานหาเสียงไปยังพื้นที่ อ.สูงเม่น รอยต่อเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 3 หยุดขบวนทักทายประชาชนที่ตลาดสดบ้านบวกโป่ง ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ท่ามกลางแฟนคลับจำนวนมาก
จากนั้นขบวนคาราวานหาเสียงพรรคก้าวไกลได้มุ่งหน้าเข้าเมืองแพร่ไปปักหลักที่ "ลานจามจุรี" ตรงข้ามตลาดคลองถมห้างมาร์คโฟร์พลาซา นำผู้สมัครทั้ง 3 เขต คือ เขต 1 นายวิทูรย์ สุรจิตต์ เบอร์ 5 เขต 2 นายรฐรส เกิดสรรค์ เบอร์ 6 และเขต 3 นายภาวัช จันใส เบอร์ 4 ร่วมทักทายประชาชน พร้อมทั้งแถลงนโยบายพัฒนาเมืองแพร่ สุรากลั่นชุมชน การแปรรูปไม้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์เมืองแพร่ต้องได้รับการพัฒนา ยกระดับการศึกษา สร้างความเท่าเทียมในความหลากหลายทางเพศ พัฒนาความรู้เพศศึกษาในโรงเรียน การจัดการที่ดินใหม่ สร้างเศรษฐกิจแบบพึ่งพากัน
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เวทีจังหวัดแพร่มีผู้เข้าร่วมเวทีนับหมื่นคนกลายเป็นเวทีปราศรัยใหญ่ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เชื่อว่าเสียงสนับสนุนพรรคก้าวไกลจะมากกว่าสมัยพรรคอนาคตใหม่อย่างแน่นอน ซึ่งการเปิดเวทีครั้งนี้ต้องกล่าวถึงทนายเคน-นายติรานนท์ เวียงธรรม ที่ออกมาต่อสู้ให้กับชาวแพร่ทางกฎหมาย และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลเขต 1 จ.แพร่ เปิดตัวแล้วแต่ก่อนสมัครรับเลือกตั้งไม่กี่วันถูกรถยนต์ปริศนาเฉี่ยวชน จนขณะนี้ตำรวจยังไม่ทำให้คดีกระจ่าง ความจริงแล้วไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ นอกจากจงใจไม่ทำ พร้อมทั้งเชิญชวนผู้ฟังการหาเสียงนับหมื่นคนเปิดไฟมือถือเพื่อไว้อาลัยให้กับทนายเคน และยืนยันว่าพรรคจะติดตามคดีจนถึงที่สุด
กรณีที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลถูกคู่แข่งกล่าวหาว่าไม่มีผลงาน ไม่พร้อมจะมาลงสนามเลือกตั้ง หรือ NO NAME ช่อ-นางสาวพรรณิการ์ วานิช กล่าวว่า เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเคยมาร่วมหาเสียงที่เมืองแพร่ในนามพรรคอนาคตใหม่ในบริเวณเดียวกันนี้ ครั้งนั้นผู้สมัครของเราก็เป็นคนหน้าใหม่ แต่ได้รับเลือกตั้งแบบกวาดทั้งจังหวัดมาแล้ว มาครั้งนี้ในนามพรรคก้าวไกล ซึ่งมีนโยบายและแนวทางที่ชัดกว่า มีนักการเมืองเก่าๆ ดูถูกผู้สมัครของเราว่าไม่มีผลงาน ความจริงแล้วผู้สมัครหน้าใหม่ของก้าวไกลจังหวัดแพร่ทำงานพัฒนาร่วมกับชาวจังหวัดแพร่มานานกว่า 30 ปี ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมานาน ซึ่งกระแสก้าวไกลปัจจุบันมาแรงมาก ดังนั้นควรเลือกทั้งคนทั้งพรรคให้รู้เรื่องไปแลย
การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะต้องตัดสินใจเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งเป็นการแข่งขัน เพราะฉะนั้นพรรคก้าวไกลไม่เปิดทางให้ใครไม่ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายเสรีนิยม เพราะถ้าแบ่งกันได้ก็คือการฮั้วกัน หัวหน้าพรรคมีความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคก็พร้อมจัดตั้งรัฐบาล
“ผู้สมัคร ส.ส.เขตของเรามีประสบการณ์รูปแบบเดียวกับประชาชน มีความเจ็บปวดมาแล้วจากนักการเมืองผู้มากประสบการณ์”
เรื่องงูเห่า เป็นเพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ตบหน้าประชาชนเป็นผลพวงของรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจหรือเปล่า สำหรับชาวแพร่เราปฏิเสธไม่ได้ที่ทำให้ชาวแพร่ผิดหวังกับงูเห่า แต่ปัจจุบันเราคัดเลือกคนที่ดีที่สุดมีแนวทางเดียวกับพรรคจริงๆ เวลาพิสูจน์พรรคอนาคตใหม่จนถึงก้าวไกลแล้วตรงไปตรงมา 14 พฤษภาคม เลือกพรรคที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเราทำเรื่องยากๆ ที่พรรคการเมืองอื่นไม่ทำ