ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ระทึก! เพลิงไหม้ห้างใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังรายใหญ่กลางเมืองโคราช จนท.ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าฉีดน้ำสกัดไฟใช้เวลากว่า 2 ชม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ คาดประกายไฟจากหม้อแปลงระเบิดกระเด็นเผาโกดังสินค้า เบื้องต้นสูญกว่า 50 ล้าน ชาวบ้านเล่านาทีระทึก ด้านเทศบาลฯ เร่งตรวจอาคารกั้นเป็นเขตอันตราย
วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อช่วงเวลา 07.30 น. ได้เกิดเหตุไฟไหม้ห้างใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส (หน้าคลังใหม่) ถนนจอมสุรางค์ยาตร เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครราชสีมา ต้องประสานขอรับสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมด้วยอุปกรณ์และรถบรรทุกน้ำดับเพลิง จากกองทัพภาคที่ 2 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง ช่วยเข้าระงับเหตุรวมกว่า 20 คัน
ประชาชนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเห็นประกายไฟเกิดจากหม้อแปลงขนาดใหญ่ 2 ตัวที่ตั้งอยู่ริมถนนหน้าสถานอาบอบนวดแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนนจอมสุรางค์ยาตร ใกล้กับห้างใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส เกิดเปลวไฟลุกไหม้สายไฟเป็นแนวยาว ก่อนที่ประกายไฟจะกระเด็นเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าภายในห้างใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส จนเกิดกลุ่มควันไฟลุกไหม้ตามมา
โดยภายในโกดังมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงและวัตถุไวไฟจำนวนมาก ทั้งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดจำนวนมาก ลังกระดาษ โฟม พลาสติก และถังก๊าซหุงต้ม ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและควบคุมได้ยาก นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงได้มาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง เนื่องจากควบคุมเพลิงได้ยาก เพราะมีถังแก๊สบางถังติดไฟ และพ่นไฟออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไฟโหมไหม้อย่างรุนแรง จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปปิดหัวแก๊สหรือเคลื่อนย้ายถังแก๊สออกมาได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงถังแก๊สทั้งหมดไม่ให้ร้อนเกินไปจนเกิดระเบิดขึ้นมา
ในขณะที่สถานที่โดยรอบก็ระดมฉีดน้ำสกัดป้องกันไม่ให้ลุกลามเพิ่ม แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ไฟได้ลุกลามไหม้ขึ้นไปยังชั้น 2 ของอาคารต้องระดมรถน้ำ รถดับเพลิงมาเพิ่ม รวมกว่า 20 คันแล้ว และรอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ รถกระเช้า และอุปกรณ์ดับเพลิง จากศูนย์ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา และจากสำนักงาน ปภ.จังหวัดฯ ซึ่งเบื้องต้นประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ถนนจอมสุรางค์ยาตร เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ขนาดใหญ่ที่สุดในตัวเมืองนครราชสีมา มีนายอภิชาติ จงเจริญใจ เป็นเจ้าของ เปิดบริการมานานกว่า 20 ปี
สอบถาม นายสมเจตน์ เจนศิริวงศ์ อายุ 72 ปี เล่าว่า ขณะตนกำลังหลับอยู่ในบ้าน จนเวลาประมาณ 06.00 น.ได้ยินเสียงดังตูมคล้ายเสียงระเบิด จึงรีบเดินออกมาดู ก็เห็นฟิวส์ที่หม้อแปลงขนาดใหญ่ถูกนกบินเข้ามาเกาะ ทำให้ฟิวส์ระเบิดตกห้อยลงมา มีประกายไฟออกมาจากตัวฟิวส์และจากหม้อแปลง ทำให้ไฟฟ้าช็อต แล้วลามไปตามสายไฟเข้าไปที่โกดังเก็บของของร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ซึ่งตอนนั้นยังเช้าอยู่ ยังไม่มีใครมาทำงาน ชาวบ้านจึงช่วยกันแจ้งการไฟฟ้าฯ ให้มาตัดไฟ แต่ไม่ทัน ไฟได้ลามไหม้อย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นเพลิงไหม้ดังกล่าว
ด้าน นายสมเกียรติ มุ่งฝ่ากลาง อายุ 55 ปี ช่างไฟประจำอาคารร้านกินซ่า อาบนวด เล่าว่า เห็นไฟลามไหม้เข้ามาในโกดังร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ประมาณ 08.07 น. โดยไฟลุกลามมาจากแผ่นหลังคาเมทัลชีตของร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ตนและเจ้าหน้าที่ของร้านกินซ่า สถานอาบอบนวด จึงพยายามช่วยกันดับไฟ ซึ่งชาวบ้านได้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ให้มาตัดกระแสไฟ และแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วย ส่วนพนักงานของร้านกินซ่าฯ ก็นำถังดับเพลิงมาฉีดเพลิงที่ลุกไหม้บนหลังคาจนดับได้แล้ว แต่สะเก็ดไฟที่หล่นไปที่พื้นด้านล่างได้ไหม้เครื่องใช้ไฟฟ้าและกล่องกระดาษและอื่นๆ ทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกอย่างรุนแรงจนเอาไม่อยู่
สาเหตุมาจากหม้อแปลงระเบิด ได้ยินเสียงหม้อแปลงระเบิดแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็มีคนโทรฯ.มาแจ้งตนให้ไปช่วยตัดกระแสไฟในตัวอาคารและช่วยกันดับเพลิง ซึ่งตอนนั้นตนเดินไปดูที่ร้านใต้ฟ้ายูนิเวิร์สแต่ยังไม่มีใครมาทำงานสักคน พยายามดับเพลิงเท่าที่จะทำได้ แต่ไฟก็ลามไหม้ไปเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ มาถึงจึงรีบตัดกระแสไฟ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ทยอยระดมรถน้ำมาฉีดสกัดเพลิงช่วยดังกล่าว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟไว้ในวงจำกัดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้เพื่อไม่ให้ไฟลุกขึ้นมาซ้ำ อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่บางส่วนและสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อให้ได้ความชัดเจน
ส่วนตัวอาคารที่ได้รับความเสียหาย ทางเทศบาลฯ ต้องประกาศห้ามใช้อาคาร เพราะความร้อนจากเพลิงที่เผาผลาญ อาคารทำให้โครงสร้างและตัวอาคารทรุดพังลงมาได้ จึงถือเป็นเขตอันตรายห้ามเข้าใกล้และห้ามใช้อาคาร ต้องรอทีมช่างและวิศวกรจากสำนักการช่างเทศบาลนครฯ เข้ามาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคารก่อนว่าจะสามารถใช้อาคารต่อไปได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องทุบทิ้ง
กรณีที่ชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุเห็นเหตุการณ์ว่าเกิดจากหม้อแปลงระเบิด ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้รับแจ้งแล้วแต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งตอนนี้ยังประเมินความเสียหายทั้งหมดไม่ได้ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าและทรัพย์สินอื่นๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการเข้าช่วยระงับเหตุ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาที่รวดเร็วพอสมควร