ระยอง - เอ็นดู! หนุ่มน้อยใจกล้าขอพ่อฝึกเป็นสัปเหร่อช่วยทำพิธีให้ศพไร้ญาติ ชาวบ้านแห่ชื่นชม เผยเริ่มต้นจากความสงสารพ่อต้องทำงานหนัก จึงเริ่มขยับจากช่วยหยิบของเล็กๆ น้อยๆ สู่ผู้ทำพิธี ใฝ่ฝันอนาคตเป็นผู้พิพากษา แต่ไม่ทิ้งงานสัปเหร่อช่วยคนจน
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปวัดชากกอไผ่ ม.1 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งมีการจัดงานฌาปนกิจศพไร้ญาติ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เสียชีวิตได้ไปสู่สุคติตามความเชื่อทางศาสนา โดยมี นายอรัญ รอดพ้น อายุ 41 ปี ทำหน้าที่สัปเหร่อหลัก
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของชาวบ้ารที่เข้าร่วมงานคือ หนุ่มน้อยวัยเพียง 12 ปี ด.ช.วุฒิภัทร์ รอดพ้น ซึ่งทำหน้าที่ผู้ช่วยสัปเหร่อได้อย่างคล่องแคล่ว และยังได้จัดเตรียมขั้นตอนต่างๆ ของพิธีกรรมก่อนฌาปนกิจได้ถูกต้องตามประเพณีนิยมท้องถิ่น
จากการสอบถาม นายอรัญ รอดพ้น ซึ่งทำหน้าที่สัปเหร่อหลัก ทราบว่า หนุ่มน้อยคนดังกล่าวคือบุตรชายของตนเองที่มีความสนใจในการเป็นสัปเหร่อ หลังได้ติดตามตนเองมาทำงานช่วยเหลือชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ตนเองแม้จะเรียนจบด้านรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ และได้ทำงานธนาคารมานานถึง 21 ปี แต่มีความต้องการที่จะทำงานช่วยเหลือสังคม
โดยจุดเริ่มต้นของการทำงานเป็นสัปเหร่อ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่สัปเหร่อของหมู่บ้านได้ทยอยเสียชีวิตจนไม่มีใครสืบทอดวิชา และเมื่อครั้งที่คนในหมู่บ้านเสียชีวิตต้องใช้สัปเหร่อจากตำบลอื่น ตนเองจึงเริ่มเรียนวิชาสัปเหร่อที่วัดชากกอไผ่ เพื่อทำหน้าที่ให้คนในหมู่บ้าน ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่อาศัยอยู่ และปัจจุบันได้ทำหน้าที่ดังกล่าวมาถึง 3 ปีแล้ว
"ช่วงที่เรียนวิชาจนได้ครอบครูและเป็นสัปเหร่อเต็มตัวได้พาลูกชายมาด้วยทุกครั้งจนได้วิชาไปด้วย กระทั่งมีสัปเหร่อด้วยกันทักว่า ลูกชายที่เข้ามาอยู่ในจุดนี้น่าที่จะต้องมีวิชาไว้ป้องกันตัวด้วย จึงเริ่มสอนขั้นตอนต่างๆทางพิธีกรรม รวมถึงคาถาบทสวดต่างๆ ให้ลูกมานานกว่า 1 ปี จนถึงวันนี้จึงเริ่มให้ทำพิธีเองบ้างซึ่งพบว่าได้รับความเอ็นดูจากเจ้าภาพและชาวบ้านเป็นอย่างดี" นายอรัญ กล่าว
ขณะที่ ด.ช.วุฒิภัทร์ รอดพ้น หรือน้องเจ้านาย บอกว่า ตนเองมีพ่อเป็นไอดอล จึงทำให้เมื่อโตขึ้นอยากทำหน้าที่สัปเหร่อช่วยเหลือคนเหมือนกับพ่อ ควบคู่กับอาชีพในฝันที่อยากเป็นผู้พิพากษา
"เห็นพ่อทำแล้วสงสารกลัวพ่อเหนื่อย เพราะบางวันมีงาน 3-4 ศพ พ่อทำไม่ไหวจึงอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง และยังอยากช่วยศพไร้ญาติ และคนที่ไม่มีเงินด้วย และพอทำแล้วรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยคนอื่น"
ด.ช.วุฒิภัทร์ หรือน้องเจ้านาย ยังบอกอีกว่าในช่วงแรกตนเองทำหน้าที่ช่วยหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ให้พ่อเท่านั้น ซึ่งพ่อมักบอกว่า “ถ้าเรากลัว แล้วคนจะอยู่อย่างไร แล้วใครจะทำ ถ้าไม่มีเรา” จึงมาลองคิดทบทวนดูและค่อยๆ สัมผัสร่างผู้เสียชีวิตกระทั่งความกลัวค่อยหายไป จึงเริ่มท่องจำคาถากว่า 10 บท จนจำได้หมดทุกคาถา
และเมื่อได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สัปเหร่อให้ศพไร้ญาติเป็นศพแรกซึ่งมีพ่อคอยประกบ ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ร่วมในพิธี