อุดรธานี - "น้องมด" อดีตเมียเสี่ยปาน ดับเครื่องชน! บุกหน้าบ้านป้าเก้า ติดป้ายห้ามซื้อขายมรดกผืนสุดท้ายของเสี่ยปาน 30 ล้าน ต้องให้เป็นสมบัติของน้องเกาลัด ลูกชายเสี่ยปาน ชี้ป้าเก้าไม่ทำตามพินัยกรรม ถือว่ายกเลิกเป็นผู้จัดการมรดก
วันนี้ (7 พ.ค. 66) ที่บ้านเลขที่ 329 ม.7 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นางสาวเสาวณี ทองวิเศษ อายุ 37 ปี หรือ “มด” อดีตภรรยานายยงยุทธ แก้วสวนจิก หรือ “เสี่ยปาน 30 ล้าน” ชาวบ้านหนองบ่อ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้รับเงินรวมกว่า 30 ล้านบาท ได้นำป้ายไวนิลพิมพ์ข้อความระบุว่า “ห้ามจำหน่าย จ่าย-โอน ที่ดินแปลงนี้” มาติดที่บ้านเลขที่ 329 ม.7 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
นางสาวเสาวณี ทองวิเศษ อดีตภรรยาเสี่ยปาน เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของเสี่ยปาน ซึ่งได้ซื้อมาหลังจากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ในราคา 1.7 ล้านบาท จากพ่อเรืองเดช โดยเสี่ยปานได้บอกกับชาวบ้านทั่วไปว่าที่ดินตรงนี้จะให้น้องเกาลัด ลูกชาย และเมื่อลูกชายมาหา เสี่ยปานก็พูดกับลูกชายตลอดว่าที่ดินตรงนี้เป็นของน้องเกาลัด พ่อจะให้น้องเกาลัด
ล่าสุดก่อนเสี่ยปานจะเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมให้ น.ส.สุธีรา แก้วสวนจิก หรือ ป้าเก้า พี่สาวเสี่ยปาน เป็นผู้จัดการมรดกโดยระบุอย่างชัดเจนว่า บ้านพร้อมที่ดินให้ขาย และนำเงินที่ได้มอบให้น้องเกาลัด เป็นจำนวน 3 ล้านบาท โดยให้เข้าบัญชีน้องเกาลัด 2 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านให้โอนให้น้องเกาลัด เดือนละ 7 พันบาททุกเดือนจนกว่าจะครบจำนวน 1 ล้านบาท
เมื่อประกาศขายบ้านได้แล้ว (โดยขายให้กับญาติของสามีใหม่ ป้าเก้า ) ปรากฏว่าป้าเก้าๅม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุไว้ ได้หอบเงินหนีทั้งหมด น้องเกาลัดไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ป้าเก้าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง จนกระทั่งตนได้ไปร้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี มีการออกหมายเรียกและหมายจับที่ 186/2566 ลงวันที่ 3 เม.ย. 2566
ที่ดินตรงนี้เป็นของเสี่ยปาน ซึ่งทนายความได้บอกว่า เมื่อป้าเก้าไม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้ ก็เป็นอันยกเลิกผู้จัดการมรดก ไม่สามารถที่จะทำธุรกรรมใดๆ ได้ และน้องเกาลัดเป็นลูกชายโดยสายเลือด มีสิทธิในที่ดินผืนนี้เพียงผู้เดียว ตนจึงมาติดป้ายประกาศ เพื่อลูกชายของเสี่ยปานจะได้สิทธิครอบครองที่ดินผืนนี้ เป็นผืนสุดท้ายที่ยังมี ตนพยายามติดต่อป้าเก้าตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้โทรศัพท์ถูกยกเลิก
สำหรับรถยนต์ที่คิดว่าจะนำไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินออกมาต่อสู้คดีความนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เอารถไปจำนำ จะขอใช้เงินที่เหลืออยู่เป็นค่าใช้จ่ายในการสู้คดีก่อน ให้สุดทางหมดหนทางจริงๆ ตนจึงจะนำรถยนต์ไปจำนำ ฝากถึงป้าเก้าอีกครั้ง ว่าหากดูอยู่ก็ขอให้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง
