ศูนย์ข่าวศรีราชา - “บิ๊กโจ๊ก” ส่งทีมร่วมล่า "เบียร์ กอไผ่" หัวหน้าแก๊งปล้นบ้านชาวจีนพร้อมลูกสมุนที่อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนพริตตี้สาวตำรวจเตรียมเรียกสอบปากคำ หากมีส่วนเกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนเงินผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายบังคับโอนเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่สั่งอายัดแล้ว
วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้าย 5 คน บุกปล้นบ้านนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยใช้อาวุธปืนบังคับข่มขู่ก่อนใช้สายไฟมัดมือมัดเท้าผู้เสียหาย ก่อนกวาดเอาทรัพย์สินไปได้กว่าล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 2 รายคือ นายชัยชนะ พิมพา หรือบีม อายุ 28 ปี และนายธวัชชัย สียางนอก หรือแบงค์ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางเป็นรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ และรถของผู้เสียหาย รวมถึงรถที่ใช้ในการหลบหนีออกนอกพื้นที่
ส่วนผู้ก่อเหตุอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายนิว นายเอ็ม และนายเบียร์ กอไผ่ หัวหน้าแก๊งที่ใช้อาวุธปืนยิงแหวกวงล้อมของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปได้ และสาวพริตตี้ หรือเด็กเอ็นเตอร์เทนที่กลุ่มผู้เสียหายชาวจีนเรียกไปใช้บริการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าว่าเป็นนำข้อมูลไปบอกกลุ่มนายเบียร์ กอไผ่ จนนำสู่การบุกปล้นบ้าน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมือง และทีมสืบสวนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสืบสวนจังหวัด และตำรวจสืบสวนภาค 2 รวมทั้งคณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนี
ประกอบด้วย 1 นายสราวุธ สุธาพจน์ หรือ เบียร์ กอไผ่ อายุ 31 ปี นายนครินทร์ แซ่เตียว หรือนิว อายุ 26 ปี นายวันชนะ กรีดกราย หรือเอ็ม อายุ 27 ปี เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีคนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ"
พ.ต.อ.ฐนพงษ์ โพธิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายร่วมกันปล้นทรัพย์ชาวจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ระดมกำลังทั้งในส่วนของ สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และภาค 2 ช่วยกันหาเบาะแสติดตามจับกุมคนร้าย นอกจากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ช่วยสืบสวนจนพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 คน และเป็นผู้ต้องหาที่ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับแล้ว
สำหรับหลักฐานที่ได้มีทั้งรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อคลุม และหน้ากากอนามัยที่อยู่ในรถของผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเงินของผู้เสียหายที่กลุ่มคนร้ายบังคับให้โอนเข้าบัญชีที่ผู้ต้องหาระบุไว้แล้ว และหลังจากนี้จะได้ติดตามตัวเจ้าของบัญชีมาทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
"ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ถูกจับกุมได้นั้นขณะนี้ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งต้องฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากประชาชนท่านใดมีเบาะแสสามารถแจ้งมาที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงได้ และในเรื่องของการชี้เป้าของสาวพริตตี้นั้น คงจะต้องนำตัวมาสืบสวนก่อน ซึ่งประเด็นนี้เป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาที่ถูกจับในเบื้องต้นเท่านั้น และหากพบาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน" ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าว