เชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกประชุมนายตำรวจเกี่ยวข้องทั้งหมดสรุปคดีไอ้เหี้ยมข่มขืนฆ่าเซลส์สาวขายรถยนต์ พร้อมสั่งรื้อหลายคดีในอดีตที่ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้และมีลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน รวมทั้งคดี “น้องแอน” ถูกฆ่ามัดต้นกระถินยักษ์ มช.ปี 48 และสองตายายรัดคอ ปี 51 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่
ความคืบหน้าคดีที่นายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ อาชีพขับรถร่วมส่งพัสดุ ได้ก่อเหตุล่อลวงนางสาวเด่นนภา หรือคุณอ้อม คุณยศยิ่ง อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถยี่ห้อดัง พาไปบังคับข่มขืนและลงมือฆ่าในโรงแรมแห่งหนึ่งพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แล้วนำศพไปซุกซ่อนที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ค. 66) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกประชุมนายตำรวจของภาค 5 ประกอบด้วย พลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดจากสถานีตำรวจภูธรสันทราย, สถานีตำรวจภูธรแม่โจ้, สถานีตำรวจภูธรแม่ริม, สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด และสถานีตำรวจภูธรแม่แฝก รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า วันนี้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดทุกพื้นที่ที่เกี่ยวข้องคดีของนายณัฐพลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งประสานข้อมูลคดีจากตำรวจนครบาล นำข้อมูลทุกคดีมาพิจารณาเพื่อทำให้สำนวนหลักฐานทุกอย่างให้รัดกุมเรียบร้อยไม่มีตกหล่นในการเอาผิดผู้ต้องหา รวมถึงให้มีการรื้อคดี “น้องแอน” ที่ถูกฆ่ารัดคอตาย ติดกับต้นกระถินยักษ์ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปี 2548 และฆ่ารัดคอสองตายายเมื่อปี 51 ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ซึ่งเป็นสองคดีดัง และยังจับคนร้ายไม่ได้ โดยให้มีการนำหลักฐานเปรียบเทียบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เพราะพฤติกรรมการก่อเหตุฆาตกรรมคล้ายกัน
นอกจากนี้ให้มีการนำคดีที่มีการก่อเหตุกับผู้หญิงในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มาตรวจสอบ ขณะเดียวกันทางตำรวจภูธรภาค 7 ยังได้มีการประสานมาด้วย เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะมีลักษณะเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องเพราะมีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน ทั้งนี้หากพบหลักฐานเชื่อมโยงแน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกันจะดำเนินคดีเอาผิดทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหานั้น เวลานี้ถูกฝากขังแล้วและคัดค้านการประกันตัว พร้อมทั้งกับในสำนวนคดีได้มีการเสนอต่อศาลขอให้เพิ่มโทษผู้ต้องหาด้วย โดยคดีของนายณัฐพล ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย และสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ดนั้น ดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระกัน
สำหรับข้อสงสัยของประชาชนที่ว่าเหตุใดทางสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ดจึงปล่อยตัวนายณัฐพลให้ออกมาลอยนวลและก่อเหตุสะเทือนขวัญได้อีก ทั้งที่ช่วงกลางเดือน เม.ย. 66 นายณัฐพลเพิ่งก่อเหตุและถูกแจ้งความดำเนินคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวและล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวอายุ 18 ปี ซึ่งนายณัฐพลได้เข้ามอบตัวแล้วนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้พิจารณาด้วยตัวเองแล้วพบว่าคดีที่เกิดขึ้นดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนได้ทำตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวจึงต้องปล่อยตัวไป โดยจากนี้ได้กำชับพนักงานสอบสวนแล้วว่าทุกคดีต้องตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาให้ละเอียด หากพบกระทำผิดซ้ำต้องพิจารณาบังคับใช้กฎหมายอย่างรอบคอบเข้มงวด
