อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่ กกต.อุบลราชธานียันการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตของสองตายายที่ลงทะเบียนไปแล้วแก้ไขกลับไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสียสิทธิให้ไปแจ้งเหตุขัดข้องไม่ไปเลือกตั้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อนและหลังวันลงคะแนน 7 วัน
จากกรณีนายบุญมา ทองเต็ม อายุ 72 ปี และนางสาววรัญญา สุขเสริม อายุ 68 ปี ชาวอำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งทั้งคู่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองอุบลราชธานี แต่มีชื่อลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขต โดยนายบุญมามีชื่อลงคะแนนที่เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.ระงู จ.สตูล ส่วนนางสาววรัญญาเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเขตเลือกตั้งที่ 3 อ.ปัว จ.น่านนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายปัญญา สิทธิจินดา พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการ กกต.อุบลราชธานี กล่าวว่า กรณี 2 ตายายที่มีชื่อใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้านอกเขต ซึ่งทั้งคู่มาขอคำชี้แจงจาก กกต.จังหวัด ได้ทำความเข้าใจว่า กระบวนการลงทะเบียนขอใช้สิทธินั้น มีหลายขั้นตอน ไม่น่าจะเกิดความผิดพลาด แต่อาจมีคนอื่นไปลงทะเบียนให้
จากการตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนเทศบาล ก็ยืนยันมีการลงทะเบียนถูกต้องทั้ง 3 ส่วน ข้อมูลในส่วนของบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ถือ ข้อมูลของทะเบียนบ้าน และข้อมูลส่วนตัวของคนทั้งสอง เมื่อตรงกันระบบจึงรับลงทะเบียนให้ จึงไม่น่ามีข้อผิดพลาดอะไรในส่วนของการขอลงทะเบียน อาจเป็นไปได้มีคนอื่นที่มีข้อมูลของสองตายายแอบเอาไปลงทะเบียนผ่านทางช่องทางอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้มีการลงทะเบียนไปแล้ว
แต่เมื่อคนทั้งสองยืนยันไม่ได้ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขต พร้อมทั้งเกรงจะเสียสิทธิที่ไม่ไปลงคะแนน ก็ได้แนะนำให้ทั้งคู่ไปแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนเทศบาลนครอุบลราชธานี ตามที่ทั้งคู่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ถึงเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถไปลงคะแนน ก็จะไม่ทำให้เป็นผู้ที่เสียสิทธิเพราะไม่ไปเลือกตั้งแล้ว
แต่การจะทำให้กลับมามีชื่อลงคะแนนในที่เดิมของการลงคะแนนวันที่ 14 พ.ค.คงทำไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ชัดเจน การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงกรณีมีการลงทะเบียนไปแล้ว ต้องแจ้งยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงภายใน 30 วันก่อนวันเลือกตั้ง จึงไม่มีช่องทางที่จะแก้ไขส่วนนี้ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกช่องทาง คือ ไปขออำนาจศาลให้พิจารณาคืนสิทธิให้เลือกตั้งที่เดิมได้หรือไม่ จึงได้แนะนำสองตายายจนเข้าใจแล้ว
กรณีแบบนี้ ของจังหวัดอุบลราชธานีขณะนี้พบเพียง 2 ราย ยังไม่มีรายอื่นเพิ่มอีก จึงได้แนะนำให้รักษาสิทธิของตนเองด้วยวิธีนี้ได้เท่านั้นเอง
