นครพนม - วุ่นวายพักใหญ่ “ทนายอนันต์ชัย” ไล่พ่อค้าแม่ค้าให้พ้นหน้าวัดธาตุพนม กลุ่มผู้ค้าไม่พอใจจนเกิดการโต้เถียงสนั่น ทนายปากเอกไม่ทนแจ้งความจับกลุ่มผู้ค้ากว่า 10 ราย อย่างไรก็ตามจากการเจรจาทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปทางวัดจะสร้างโดมขายของตรงบริเวณทางเดินให้ได้ขายแค่จุดเดียวเท่านั้นและต้องลงทะเบียนรับเงื่อนไขกับทางอำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ค.) กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายดอกไม้และลอตเตอรี่ บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม อ้างถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ค้าขายในบริเวณวัด ที่เคยทำกินมานานกว่า 30 ปี โดยกลุ่มแม่ค้าได้มารวมตัวตั้งแผงขายบริเวณหน้าวัด และได้เกิดปะทะคารมกับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ในฐานะไวยาวัจกรวัดฯ ประธานดูแลผลประโยชน์วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
โดยหลังจากที่นายอนันต์ชัยพาหมอปลา และพวกกราบขอขมาต่อพระเทพวรมุนี กรณีที่กล่าวหาว่าพระเทพวรมุนีโกงค่าก่อสร้างวัดเมื่อหลายสิบปีก่อน ทนายอนันต์ชัยได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเรียกร้องให้ตำรวจที่มารักษาการในบริเวณวัดให้จับกุมบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงขายอยู่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมจนเกิดการปะทะคารมกันอย่างรุนแรง
นายอนันต์ชัยป่าวประกาศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมและยึดเอาสินค้าที่วางแผงขายมาเป็นของกลาง เนื่องจากเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการจะแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามความผิดมาตรา 157
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากเกรงเหตุการณ์จะบานปลาย โดยกลุ่มแม่ค้าต่างก็อ้างเหตุที่ต้องมาตั้งแผงขายของในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากแต่เดิมพวกตนมีแผงขายในบริเวณวัดด้านใน แต่ต่อมาถูกทางกรรมการวัดแจ้งให้ย้ายออกจากบริเวณนั้น แล้วจะหาพื้นที่ให้ใหม่ แต่พื้นที่ที่หาให้ใหม่เป็นจุดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวผ่านเลย ขายของไม่ได้ พวกตนก็มีปากมีท้อง ต้องกินต้องใช้ จึงต้องขวนขวายนำของมาขายเพียงเพื่อหาเงินมาดำรงชีพเลี้ยงครอบครัว เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุการณ์สงบ ทางกรรมการวัดพระธาตุได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อหารือกรณีดังกล่าว จากการพูดคุยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ทางวัดจะสร้างโดมขายของตรงบริเวณทางเดิน (walk way) เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้ขายของ โดยจะกำหนดให้ขายของได้เพียงที่เดียวเท่านั้น พ่อค้าแม่ค้าที่จะมาขายของจะต้องลงทะเบียน
ทั้งนี้ มอบหมายให้ทางนายอำเภอธาตุพนมเป็นผู้เจรจาพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ โดยให้ดำเนินการให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
นายอนันต์ชัยเปิดเผยว่า ทางวัดไม่มีเจตนารังแกพ่อค้าแม่ค้า แต่เป็นการจัดระเบียบตามกฎหมาย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว ยืนยันหากไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป
