เชียงใหม่ - ตำรวจแจ้งข้อหาหนักพร้อมควบคุมตัวไอ้เหี้ยมผู้ต้องหาคดีสะเทือนขวัญข่มขืนฆ่าเซลส์สาวขายรถยนต์ส่งฝากขังที่ศาลแล้ว โดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพอิดโรยและถึงกับเข่าอ่อนล้มกระแทกพื้นรถควบคุมตัว แต่ยังปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจาใดๆ ก่อนเข้าเรือนจำ ขณะที่สามีและลูกสาวของผู้เสียชีวิตนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปทำพิธีที่รถยนต์คันใช้ก่อเหตุและโรงแรมม่านรูดจุดพบศพ เชิญดวงวิญญาณเหยื่อกลับบ้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 พ.ค. 66) เวลาประมาณ 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่นำตัวนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนและฆ่านางสาวอ้อม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถยนต์ อย่างโหดเหี้ยม ออกจากห้องขังของสถานีตำรวจ เพื่อนำตัวส่งศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อฝากขัง หลังจากที่ตลอดช่วงเช้าวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายณัฐพลเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยมีการเชิญทนายความอาสาเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วยตามกฎหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์และมีโทษร้ายแรง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันทรายมีการแจ้งข้อหานายณัฐพล ในฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักขัง พาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และเคลื่อนย้ายซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งนายณัฐพลให้การยอมรับสารภาพทุกข้อหา นอกจากนี้ ในส่วนของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่นายณัฐพลก่อเหตุอีกคดีหนึ่งเมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย. 66 และถูกแจ้งข้อหาข่มขืน อนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว นำเอกสารสำนวนคดีมาให้นายณัฐพลลงลายมือชื่อ เพื่อคุมตัวส่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ฝากขัง พร้อมกันในวันนี้ด้วย
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายณัฐพลออกจากห้องสอบสวนเพื่อนำขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาไปส่งที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายณัฐพลอยู่ในสภาพที่ดูอิดโรยและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่จังหวะก้าวเท้าเดินขึ้นรถปรากฏว่านายณัฐพลมีอาการคล้ายเข่าอ่อนและล้มลงกระแทกบนพื้นรถอย่างแรง แต่ยังคงปิดปากเงียบ กระทั่งถูกนำตัวไปส่งที่ศาล
ส่วนทนายความอาสาที่เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำนายณัฐพล เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายณัฐพลให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมเล่าว่าลงมือก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายผู้ตายที่โรงแรมแห่งแรก เนื่องจากต่อสู้ขัดขืน โดยใช้ค้อนทุบและเชือกรัดคอจนแน่นิ่ง แต่อ้างว่าไม่มีเจตนาที่จะลงมือฆ่าแต่อย่างใด และไม่ทราบว่านางสาวอ้อมเสียชีวิตแล้ว จากนั้นได้นำตัวนางสาวอ้อมขึ้นท้ายรถยนต์เก๋งเพื่อเคลื่อนย้ายไปไว้ที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่พบศพเพราะคิดว่ายังไม่เสียชีวิต โดยมัดมือมัดปากไว้เพราะกลัวผู้ตายส่งเสียงดัง ส่วนที่ไม่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากตกใจ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาลและส่งตัวเข้าเรือนจำต่อไป เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกอย่าง
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. สามีและลูกสาวอายุ 17 ปี ของนางสาวอ้อม (นามสมมติ) ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ ทำพิธีสูตรถอนตามความเชื่อและประเพณีล้านนา เพื่อเชิญด้วยวิญญาณของนางสาวอ้อมกลับบ้าน โดยมีการประกอบพิธีกันที่รถยนต์ของกลางที่นายณัฐพลใช้ก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย และที่ห้องพักโรงแรมย่านตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นจุดซุกซ่อนศพ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า