บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รุดตรวจสอบ หลังโซเชียลแชร์พบเหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” เป็นพระที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งรอดชีวิต ปัจจุบันอายุ 70 ปี พูดไม่ชัดแขนขาอ่อนแรง ผู้โพสต์และชาวบ้านที่มาทำบุญบอกเป็นเสียงเดียวกันหลวงตาบอกมีหญิง 3 คนมาทำบุญถวายน้ำและสมุนไพรเมื่อปลายปี 65 แต่พอ ตร.สอบถามหลวงตากลับบอกจำไม่ได้คล้ายมีอาการหลงลืม
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" ที่รอดชีวิตอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุข้อความว่า “ช็อกมาก! ตกใจมาก หลวงตาสนทนา เล่าให้ฟัง ว่านึกได้ เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่โดน แอม ไซนาไนด์ จนล้มหมดสติ ทุกวันนี้พูดไม่ชัด แขนขาหมดเรี่ยวแรง ท่านเล่าให้ฟังว่าโยมแอมเข้ามา และมาถวายน้ำดื่ม หลังจากนั้นท่านก็ล้มหมดสติ เล็บมือ เล็บเท้าเขียว ลิ้นแข็ง พอท่านมาเห็นข่าว ท่านตกใจว่าโยมคนนี้เคยเข้ามาที่วัด มาคุยถึงจะหาคนมาช่วยสร้างวัด มาถวายปัจจัยและถวายน้ำดื่ม น่าเวทนา หลวงตาไม่คิดโกรธแค้น ถือว่าเป็นกรรมของหลวงตา #แอมไซยาไนด์#เหยื่อแอมซาไนต์” จากนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องราวดังกล่าวต่ออย่างแพร่หลาย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า หลวงตาที่เล่าให้ฟังอยู่ที่ที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยท่านเล่าให้ฟังขณะที่ผู้โพสต์และญาติโยมรวมกว่า 10 คน ไปทำบุญถวายกุฏิ และภัตตาหารที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์ตามที่ถูกแชร์ในโซเชียล พบกับหลวงตาท่านหนึ่ง อายุประมาณ 70 ปี โดยสภาพร่างกายท่านดูไม่ค่อยแข็งแรง พูดไม่ค่อยชัด ซึ่งท่านอยู่ที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเพียงรูปเดียว ซึ่งมีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวต่างมาเยี่ยมและสอบถามเรื่องราวจากท่านด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ ชาวบ้านยังได้พาเดินไปดูบริเวณที่หลวงตาล้มหมดสติอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของวัด
ขณะที่ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงศ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจ (สภ.) ภูธรกระสัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเช่นกัน โดยจากการสอบถามหลวงตารูปดังกล่าวว่าเคยเห็น แอม คนที่ปรากฏเป็นข่าววางยาฆ่าคนตายมาหลายศพมาที่ที่พักสงฆ์แล้วนำน้ำดื่ม หรือสมุนไพรมาถวายให้จริงหรือไม่ ซึ่งหลวงตาก็บอกว่าจำไม่ได้ เพราะมีญาติโยมทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดมาทำบุญถวายสิ่งของอยู่เรื่อยๆ ส่วนที่เป็นลมหมดสติก็เกิดขึ้นตอนที่ไปทำความสะอาดอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของที่พักสงฆ์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 กระทั่งมีญาติโยมที่มาทำบุญเห็นนอนหมดสติอยู่จึงรีบพาส่ง รพ. ซึ่งอาจจะเพราะอายุมาก หรือหน้ามืดเพราะทำงานหนักหรือไม่ เพราะหลวงตาชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานใดยืนยันว่าแอม เคยมาที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้หรือไม่ แล้วที่ท่านเป็นลมหมดสติเกิดจากสาเหตุใด
จากการสอบถาม นางณัฐพัช์ พาแกดำ อายุ 54 ปี และ น.ส.พัชรี นุรินรัมย์ อายุ 51 ปี บอกว่า ตอนเช้าพวกตนกับชาวบ้านอีกกว่า 10 คน ได้มาทำบุญถวายกุฏิให้กับหลวงตา ซึ่งตอนที่ถวายภัตตาหารจู่ๆ หลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เคยมีผู้หญิง 3-4 คน เอาน้ำและสมุนไพรมาถวายให้ที่ที่พักสงฆ์ แล้วพอท่านฉันสมุนไพรก็เกิดหน้ามืดเป็นลม พอท่านเห็นข่าวว่า แอม ไซยาไนด์ ที่เป็นข่าววางยาฆ่าคนตายหลายคน เคยมาถวายน้ำกับสมุนไพร ซึ่งทุกคนที่มาทำบุญก็ได้ยินเหมือนกัน ซึ่งท่านอาจจะพูดช้ากว่าคนปกติแต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าพูดอะไร พอได้ยินแบบนั้นต่างก็ตกใจ แต่พอมีคนนำเรื่องราวที่ท่านเล่าให้ฟังไปโพสต์ แล้วตำรวจมาสอบถามกับตัวท่านเอง หลวงตากลับบอกว่าจำไม่ได้เพราะมันนานแล้ว
ขณะคนที่โพส์ตบอกว่า ตอนที่มาทำบุญถวายกุฏิ หลวงพ่อท่านพูดขึ้นมาเอง ว่ามีผู้หญิงเหมือนกับคนชื่อ แอม ที่ปรากฏเป็นข่าววางยาคนตายหลายคน ได้มาถวายน้ำและสมุนไพรให้ท่านเมื่อปลายปี 65 ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นห่วงและอยากจะเตือนภัย จึงได้นำเรื่องราวตามคำพูดที่หลวงตา เล่าให้ฟังไปโพสต์ แต่ น.ส.แอม จะได้มาที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้ หรือท่านจะเป็นเหยื่ออีกรายจริงหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าหลวงตาท่านพูดแบบนี้จริง เพราะไม่ใช่แค่ตนเองคนเดียวที่ได้ยิน ชาวบ้านกว่า 10 คนที่มาทำบุญด้วยกันก็ได้ยินเหมือนกัน