เชียงใหม่ - แม่เซลส์สาวขายรถยนต์เชียงใหม่เหยื่อไอ้เหี้ยมลวงข่มขืนฆ่าทิ้งม่านรูด นำหัวหมูเซ่นไหว้แก้บนศาลพระภูมิโรงพักสันทราย หลังขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้และพบตัวลูกสาว เผยยังเศร้าเสียใจหนัก ยืนยันไม่มีทางให้อภัยและเรียกร้องต้องลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว พบประวัติก่อเหตุชั่วโชกโชนไร้จิตสำนึก
ความคืบหน้าคดีที่นางสาวอ้อม อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถยนต์ยี่ห้อดังโชว์รูมแห่งหนึ่งย่านกาดสามแยก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ ทำทีเป็นลูกค้าต้องการซื้อรถยนต์ ลวงไปข่มขืนแล้วฆ่านำศพไปทิ้งไว้ในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายณัฐพลได้ช่วงบ่ายวานนี้ (30 เม.ย. 66) และนำไปชี้จุดที่นำศพนางสาวอ้อมไปทิ้งไว้ในโรงแรมม่านรูด ในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น ช่วงเช้าวันนี้ (1 พ.ค. 66) ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นางกัญญา คุณยศยิ่ง อายุ 56 ปี แม่ของนางสาวอ้อม พร้อมครอบครัวและญาติ ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ นำหัวหมูต้มเป็นเครื่องเซ่นไหว้แก้บนศาลพระภูมิของสถานีตำรวจภูธรสันทราย หลังจากที่ได้บนบานไว้ว่าขอให้ตำรวจจับกุมคนร้ายได้โดยเร็วและพบตัวลูกสาว ขณะที่นายณัฐพล ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของสถานีตำรวจ เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ทั้งนี้ นางกัญญาเปิดเผยว่า ในเวลานี้ตัวเอง รวมทั้งครอบครัวและญาติทุกคนยังคงเศร้าเสียใจและโกรธแค้นผู้ต้องหาอย่างมากที่ก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดกับนางสาวอ้อมจนเสียชีวิต ซึ่งไม่มีทางให้อภัยผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาด และต้องการเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้น สำหรับลูกสาวเป็นคนจิตใจดี, มีมนุษยสัมพันธ์, ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และรักงานบริการตามอาชีพที่ทำอยู่ ส่วนผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น เชื่อมั่นว่าลูกสาวไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่น่าจะล่อลวงลูกสาวให้หลงเชื่อหรือบีบบังคับ โดยก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้นนั้นไม่ได้พูดคุยกับลูกสาวหรือมีลางบอกเหตุใดๆ ทั้งสิ้น เพราะลูกสาวพักอยู่บ้านสามีอีกพื้นที่หนึ่ง แต่ปกติลูกสาวจะไปเที่ยวหาที่บ้านในอำเภอสันทรายทุกวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดงาน ขณะที่ในส่วนของการจัดพิธีต่างๆ นั้น เตรียมนิมนต์พระสงฆ์ไปทำพิธีสู่ถอนตามความเชื่อล้านนาหรือพิธีเชิญวิญญาณของลูกสาวที่โรงแรมม่านรูดจุดที่พบศพ ส่วนการจัดพิธีศพนั้น จัดขึ้นที่วัดป่าบง ใกล้บ้านพักของลูกสาวที่อยู่กับสามี
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัตินายณัฐพล ทราบว่า ปัจจุบันมีอาชีพขับรถรับส่งพัสดุเอกชนโดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ได้ขับรถกระบะตอนเดียวตู้ทึบ ทำทีแวะซื้อของที่ร้านค้าแห่งหนึ่งแถวสี่แยกหลุยส์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมีนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เป็นคนขายของ แต่จู่ๆ นายณัฐพลได้ใช้มีดปลายแหลมจี้นางสาวเอขึ้นรถ แล้วใช้เคเบิลไทร์ล็อกข้อมือไว้ จากนั้นขับรถไปทางแยกแม่กวง โดยแวะป่าละเมาะข้างทางทำการล่วงละเมิดทางเพศผู้สียหายและได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายได้ขับรถต่อไปยังเขื่อนแม่กวง ได้บังคับให้ถอดเสื้อผ้าแล้วใช้กำลังบังคับขืนใจผู้เสียหาย ผู้ปกครองและผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรดอยดอยสะเก็ด ให้ดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยที่ผู้นั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ และอีกข้อหาคือ กักขัง หน่วงเหนี่ยว ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลแพทย์เพื่อมาประกอบสำนวนดำเนินคดี
นอกจากนี้พบด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 นายณัฐพลเคยก่อเหตุใช้เฟซบุ๊กชื่อ 'Natanon Love Love' ล่อลวงเหยื่อสาววัย 33 ปี ที่ร้านสะดวกซื้อ ถนนช้างเผือก ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนขับรถมารับไปกินข้าว แต่พอเหยื่อสาวขึ้นไปนั่งในรถนายณัฐพลก็ทำทีขับรถหลงทาง ก่อนชักปืนพกสั้นจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน และยึดโทรศัพท์มือถือ จากนั้นขับรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ แล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้า จับถอดเสื้อผ้า และลงมือใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แล้วขังผู้เสียหายไว้ในห้องพัก ก่อนหลบหนีไป ต่อมาผู้เสียหายดิ้นจนเชือกหลุด จึงขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมพามาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับนายณัฐพล ในความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กลอุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเราหญิงโดยขู่เข็ญด้วยประการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย กระทั่งแกะรอยจับกุมตัวได้ในที่สุด
โดยนายณัฐพลในขณะนั้นทราบว่าเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชื่อว่าเคยก่อคดีทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจากการควบคุมตัวนายณัฐพล ผู้ต้องหาไปตรวจสอบประวัติ และพิมพ์ลายนิ้วมือที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ พบว่านายณัฐพลหลบหนีหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ในความผิดฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามหมายจับที่ จ.832/2557 อีก 1 หมายจับ จากนั้นนายณัฐพลถูกส่งเข้าเรือนจำชดใช้กรรม และเพิ่งจะออกจากคุกมาปี 2565 ก่อนกลับมาก่อเหตุข่มขืนอีกครั้ง ทั้งกรณีนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่อำเภอดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 ซึ่งคดีความยังอยู่ระหว่างกระบวนการกฎหมาย แต่นายณัฐพลยังกลับมาก่อเหตุข่มขืนและฆ่านางสาวอ้อมอย่างโหดเหี้ยมซ้ำอีก