ศูนย์ข่าวศรีราชา - “กัน จอมพลัง” นำตำรวจสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบุกช่วยเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกพ่อทำร้ายร่างกายจนแม่แท้ๆ ต้องนำคลิปร้องขอความเป็นธรรม เบื้องต้น คาดโทษพ่อหากก่อเหตุซ้ำดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเพื่อนบ้านยันไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน
วันนี้ (29 เม.ย.) พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง" และเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เข้าให้การช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งถูกพ่อบังเกิดเกล้าทำร้ายร่างกายด้วยการตบตี จนแม่แท้ๆ สุดทนต้องนำคลิปเพื่อขอความช่วยเหลือมายัง "กัน จอมพลัง" จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ถึงการกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้า
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 15 ห้อง ในพื้นที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กระทั่งพบหนูน้อยวัย 3 ขวบ ชื่อน้องพาย จึงนำตัวไปดูแลในที่ปลอดภัย
ส่วน นายพรชัย พรรณา อายุ 23 ปี พ่อโหดถูกควบคุมตัวไว้ได้ในบ้าน โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ทำร้ายลูกสาวตามคลิปที่ปรากฏจริง โดยอ้างว่าเป็นเพราะลูกสาวไม่ยอมกินข้าว และพยายามที่จะวิ่งหนีไปเล่นบนถนน ด้วยความดื้อรั้นจนทำให้ตนเองเกิดอารมณ์ชั่ววูบใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าของลูก
และยังอ้างอีกว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยทำลูกสาวในลักษณะรุนแรงเช่นนี้มาก่อน และยังบอกว่าตนเองมีอาชีพออกเรือประมงหาปลา และในแต่ละครั้งจะออกทะเลนานถึง 10 วัน จึงจะมีโอกาสกลับมาเจอหน้าลูกสาว และลูกชายวัย 1 ขวบ ส่วนภรรยาได้เลิกรากันไปตั้งแต่กลางปีที่แล้วและตนเองได้ขอรับเป็นผู้เลี้ยงดูลูก
ขณะที่ น.ส.ต้อย อินคำ อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเห็นคลิปที่ปรากฏรู้สึกตกใจ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจับกุมตัว นายพรชัย ฐานทำร้ายร่างกายลูกสาว โดยตนเองขอยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวและเป็นคนที่รักลูกมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นเพราะความเป็นห่วงลูก เนื่องจากลูกสาวมีพฤติกรรมดื้อรั้น
ด้าน “กัน จอมพลัง” เผยว่า ที่ผ่านมาตนได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุที่บอกว่าลูกสาววัย 3 ขวบถูกพ่อทำร้าย และได้ส่งคลิปดังกล่าวมาให้ดู ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้ทำการตักเตือนว่าหากกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีกครั้งจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เจ้าหน้าที่ได้รับไปอยู่ในความดูแลเพื่อตรวจรักษาและประเมินสภาพจิตใจ เช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อและครอบครัว เจ้าหน้าที่จะได้ทำการประเมินสภาพจิตใจอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะอนุญาตให้รับตัวกลับไปดูแลต่อไป