กาฬสินธุ์ - ไม่กลัวบาป ไม่หลาบจำ ทำงานร้านอาหารรายได้ไม่พอใช้ ริเป็นโจร ตระเวนลักเงินตู้บริจาควัดพระอารามหลวง กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัด หลวงพ่อโร่แจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ตามรวบทันควัน นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยเคยถูกจับคดีลักทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษออกมาก่อเหตุอีก
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ สภ.กมลาไสย นำตัวนายอุดมศักดิ์ หรือมี่ เหล่าแสง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 5 บ้านหนองกาว ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วัดปฐมเกษาราม ในตัว อ.กมลาไสย และวัดกลาง พระอารามหลวง ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ
พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 4 เมษายน 2566 ได้รับการประสานจาก สภ.กมลาไสย เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้บริจาคภายในศาลาการเปรียญวัดปฐมเกษาราม อ.กมลาไสย จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบตู้บริจาคเงินหายไป กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณนั้น สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่หาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้าย ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2566 เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง ยังได้แจ้งความตู้บริจาคเงินภายในศาลาการเปรียญถูกคนร้ายแอบเข้ามาลักขโมยไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ารูปพรรณสัณฐานคนร้าย ซึ่งเป็นชาย มีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันที่วัดปฐมเกศาราม
พ.ต.อ.ชัยพรระบุว่า หลังจากทราบเบาะแสคนร้ายรายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กมลาไสยและ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้เร่งติดตามเบาะแสคนร้าย กระทั่งทราบว่าบุคคลผู้ต้องสงสัยเป็นพนักงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้เขื่อนลำปาว จึงได้ติดตามและพบตัวที่ร้านอาหารดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายอุดมศักดิ์ หรือมี่ เหล่าแสง อายุ 42 ปี ชาว ต.นาเชือก อ.ยางตลาด
ทั้งนี้ นายอุดมศักดิ์ หรือมี่ ผู้ต้องหา สารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพจริง โดยเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 10.45 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปก่อเหตุขโมยตู้เงินรับบริจาคในวัดปฐมเกษาราม ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้เข้าไปขโมยตู้รับเงินบริจาคในวัดกลาง พระอารามหลวง เพื่อเอาตู้รับบริจาคไปทุบเอาเงินภายในตู้ เหตุที่ลงมือก่อเหตุเพื่อต้องการเงินนำไปใช้จ่ายส่วนตัว
สำหรับนายอุดมศักดิ์ หรือมี่ เคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์และเพิ่งพ้นโทษออกมา ก่อนที่จะก่อเหตุซ้ำอีก โดยเข้าไปขโมยตู้บริจาคเงินในวัดอย่างไม่กลัวบาปกรรม และไม่รู้สึกหลาบจำ ก่อนจะถูกจับและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป