นครปฐม - มาอีกรายเป็นรายที่ 11 สาว 17 ปี เข้าพบผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของแม่ เนื่องจากมีลักษณะเหมือนกับผู้ตายก่อนหน้า เชื่อตกเป็นเหยื่อแอม แน่นอน เล่าทั้งน้ำตาสูญเสียทุกอย่างเพราะมีคนมาฆ่าแม่ รวมถึงอีกหลายคน ด้าน ผบช.ภ.7 สั่งตั้งศูนย์รับเรื่องพร้อมส่งทีมติดตามคดีที่สงสัยทั้งหมด ทั้งสถานปฏิบัติธรรม วงแชร์ เรียกรื้อแน่ ขอให้ญาติมั่นใจ
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เรียกประชุมด่วนในการคลี่คลายเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ราย จาก 10 ราย ซึ่งมีความพัวพันกับแอม อดีตภรรยาของรองผู้กำกับการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและพูดถึงพฤติกรรมที่มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง โดยมีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย และกำลังอยู่ในช่วงการขยายผลเพื่อหาความเชื่อมโยงต่างๆ
โดยในการประชุมดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบหมายให้ทีมงานสืบสวน และสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งควบคุมโดยระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ในการทำงานร่วนกันเพื่อคลี่คลายคดี โดยมีนายตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดทุกแห่งในสังกัดเข้าร่วมการประชุม ซึ่งในที่ประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดและไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังข้อมูล
โดยในเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิวิน วิน ได้นำตัว น.ส.มด (นามสมมติ) อายุ 17 ปี มาพบกับ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เพื่อมาขอร้องเรียนและให้ตรวจสอบพฤติกรรมของแอม เนื่องจากนางรจลิน นิลห้อย หรือเจ๊น้อย อายุ 39 ปี ได้เสียชีวิตลักษณะเดียวกันกับเหยื่อทั้ง 9 ราย โดยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
น.ส.มด บอกว่า วันเกิดเหตุตนได้อยู่กับแม่ยังปกติดี แต่พอกลับจากทำผมมีลูกน้องตามขึ้นมาบอกว่าแม่เป็นลม แต่พอลงมาดูเห็นแม่ชักอาการมึนงง อาเจียน น้ำลายฟูมปาก จึงได้แจ้งกู้ภัยส่งโรงพยาบาล แต่ยังไม่ทันได้ซักประวัติแม่หัวใจหยุดเต้น หมอได้ทำการช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน แม่เสียชีวิตในเวลาไม่นาน ลักษณะมีน้ำลายฟูมปาก ตัวเย็น เล็บดำ โดยใบชันสูตรระบุว่าเลือดเป็นกรด
น.ส.มด บอกต่อว่า ก่อนหน้านี้ แอมไม่เคยมาทำการรู้จักกับที่บ้านมาก่อน แต่ทราบว่ามีการติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก ซึ่งแม่จะคุยกับเขาช่วงกลางคืนโดยจะคุยเรื่องเงิน กับการจำนองรถ หลังจากนั้นไม่นานแม่ได้โอนเงินไปให้ 60,000 บาท โดยมีเงินตนเอง 20,000 บาท ตนได้ถามแม่ว่าโอนไปทำไม แม่บอกแค่ว่า แอม ยืมเท่านั้น ซึ่งแม่มาตายก่อนวันคืนเงินเพียง 1 วัน
น.ส.มด บอกต่ออีกว่า มีข้อสังเกตคือ ในช่วงที่แม่กลับมาจากทำผม และมีอาการน็อกไป หนูได้เก็บมือถือของแม่ไว้ แต่มีสายของแอม โทร.มาหาแม่ ซึ่งกำลังจะคุยเรื่องอาการ ทางเจ้าหน้าที่ได้มาเรียกไปสอบถามข้อมูล ก็ได้วางสายและหายตัวไป ซึ่งในงานศพก็ไม่มา แต่เคยมีการทวงเงินไปเขาได้บอกว่าแม่ยืมไป เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ
“หนูอยากจะบอก ว่าเขาไม่ได้ฆ่าแม่หนูเพียงคนเดียว แต่เขาฆ่าหลายคน และเชื่อว่าเขาน่าจะมีส่วนกับการตายของแม่ อยากจะบอกว่าเขาทำลายชีวิตหนู หนูมีแม่มา 17 ปี มีอะไรจะสอบถามแม่ทุกเรื่อง อยากให้ตำรวจสืบสวนและดำเนินคดีถึงที่สุด” น.ส.มด กล่าวด้วยน้ำตา
ด้าน นายสงกรานต์ อดีตแฟนของนางน้อย บอกว่าแม้ตอนนี้ตนเองจะเลิกกับผู้ตายไปแล้วแต่ทราบว่ามีการติดต่อกับแอม แต่ไม่ทราบว่าเขาไปคบหากันอย่างไร แต่ในวันที่เขาเสียชีวิตเขาไปข้างนอก และถือถุงคาดว่าจะเป็นสลัดเดินกลับเข้ามา น่าจะรับประทานเข้าไป โดยลูกจ้างเข้าไปช่วยพยุง พบว่าอาเจียนมีน้ำลายฟูมปาก แต่ยังไม่เสียชีวิต และได้รีบแจ้งกู้ชีพให้มารับตัวไปก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งลูกจ้างบอกว่าไม่เคยเห็น แอม มาก่อน เพิ่งเห็นมาไม่นานก่อนจะมีเรื่อง
ขณะที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เผยว่า เบื้องต้นมีเหตุเกิดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีญาติคาใจการเสียชีวิตในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเราได้ตั้งคณะทำงานทันที โดยได้รายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ทราบแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต 9 รายจาก 10 ราย โดยวันนี้ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตรายที่ 11 ได้มาขอพบเพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบ เป็นเคสใหม่สำหรับวันนี้
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า วันนี้เชิญนายตำรวจในสังกัดตั้งเป็นคณะทำงานและเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่ตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อที่ติดตามคดีต่างๆ แม้จะมีการเสียชีวิตที่น่าสงสัยแต่ญาติไม่ติดใจจะรื้อมาด้วย เพราะญาติอาจจะไม่รู้ว่าเขาตายจากอะไรกันแน่ ซึ่งหากมีการแจ้งมาอีกจะส่งทีมงานไปพบทันที ซึ่งขอให้ประชาชนมั่นใจว่าตำรวจจะทำงานตรงไปตรงมาแน่นอน ส่วนอดีตสามีของแอม ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับรองผู้กำกับการ แม้จะหย่ากันแล้วต้องสอบและสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
“มีหลายประเด็นที่ประชาชนสงสัย คือในพื้นที่จังหวัดอุดรฯ ที่เชื่อมโยงจะมีการประสานตำรวจภูธรภาค 4 มาร่วมตรวจสอบกับตำรวจสอบสวนกลางด้วย เพราะยังมีในส่วนการร้องเป็นคดีฆาตกรรม เพื่อตรวจสอบอีกทางซึ่งไม่ทับซ้อนกัน ส่วนประเด็นวงแชร์จะมีการสืบสวนว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวพันเราจะเรียกมาหมด ไม่เว้นแต่สถานปฏิบัติธรรม ที่มีการสงสัยว่าผู้ที่เสียชีวิตจะถูกชักชวนไปทำบุญปล่อยปลาและมาเสียชีวิต ขอให้ประชาชนมั่นใจ” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าว
