หนองคาย - นรข.สังคม หนองคาย ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์ ขณะกำลังถูกนำลงเรือแพข้ามแม่น้ำโขง คาดเตรียมส่งข้ามไปขายฝั่งลาว ตรวจสอบเอกสารในรถผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นชาวบุรีรัมย์ และพระนครศรีอยุธยา ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาไม่ต้องถามถึงหนีรอดไปในความมืดเหมือนเคย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สถานีเรือสังคม อ.สังคม จ.หนองคาย ร.อ.ไพรสน พลเสน หน.สน.เรือสังคม ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.สังคม, มว.ตชด.2453 ร้อย.ตชด.ที่ 245, ตำรวจน้ำศรีเชียงใหม่ ส.รน.2 กก.11 บก.รน., ร้อย.ฉก.ทพ.ที่ 2104 ฉก.ทพ.24, สภ.สังคม ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์ 2 คันที่ริมโขงบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย
เรือเอก ไพรสน พลเสน หัวหน้าสถานีเรือสังคม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) สถานีเรือสังคม ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกประเทศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร บริเวณบ้านปากโสม หมู่ 2 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จึงสั่งการให้ ร.ท.สไกร โปร่งพรมมา ผู้ควบคุมเรือฯ วางแผนนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.15 น. ได้ยินเสียงเรือกีบแล่นในแม่น้ำโขง 2 ลำ มาจอดเทียบฝั่งบริเวณป่ารกทึบ จากนั้นไม่นานพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันนำรถยนต์ 1 คันลงไปยังริมตลิ่งแม่น้ำโขงโดยใช้เชือกผูกที่กันชนท้ายและค่อยๆ ปล่อยให้รถไหลลงไปยังตลิ่ง จากนั้นขับลงไปบนเรือกีบ
จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กลุ่มคนบนเรือเห็นเจ้าหน้าที่ได้กระโดดลงน้ำอาศัยความมืดหลบหนีไป ส่วนคนขับรถก็ได้ทิ้งรถโดยยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์ทำให้รถยนต์ตกน้ำโขง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบเรือกีบเพลายาว 2 ลำ มีแผ่นไม้พาดกลางระหว่างลำทำเป็นแพขนานยนต์ และพบรถยนต์กระบะ 1 คัน จมแม่น้ำโขงลึกประมาณ 2 เมตร เมื่อนำขึ้นมาทราบว่าเป็นรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กง 691 บุรีรัมย์
ตรวจสอบเอกสารในรถยนต์พบเอกสารผู้ถือกรรมสิทธิ์ ชื่อ น.ส.เต็มดวง พนารินทร์ ชาว ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และยังพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ฎศ 329 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถพบเอกสารระบุ น.ส.นันทิกา ไม้แก้ว ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มขบวนการลักลอบซื้อขายรถจะลอบนำรถยนต์ทั้งสองคันออกนอกประเทศ โดยการนำลงเรือกีบข้ามแม่น้ำโขง แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน จึงได้นำรถยนต์ของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
