กาฬสินธุ์ - เมืองน้ำดำอากาศยังร้อนจัด กระทบพืชสวน พืชไร่เหี่ยวแห้ง เกษตรจังหวัดเผยผลผลิตการเกษตรเสียหายบางส่วน คาดว่าสถานการณ์ดีขึ้นหากมีฝนตกลงมา ขณะที่ชาวนาปลูกข้าวนาปรังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต หวั่นเสียหายจากพายุฤดูร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ในฤดูแล้งซึ่งฝนทิ้งช่วงไปนานกว่า 5 เดือน พบว่าแหล่งน้ำใต้ดิน และแหล่งน้ำบนดิน เริ่มขาดแคลน ขณะที่พืชสวน พืชไร่ เกิดความเสียหายบางส่วน เนื่องจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงยังเริ่มผอมโซ เพราะอาหารหลักอย่างหญ้าตามธรรมชาติแห้งเฉาตายไป
นายสันติภาพ โทนหงสา เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วงนานกว่า 5 เดือนดังกล่าว ประกอบกับแดดจัด อากาศร้อน อุณหภูมิ 38-39 องศา บางวันอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา ทำให้พืชผลการเกษตรเสียหาย ขณะที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมทั้งแหล่งน้ำที่เกษตรกรขุดไว้เพื่อกักเก็บน้ำใช้ฤดูแล้งก็แห้งขอด จึงพบว่าพืชผลการเกษตรหลายชนิด เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ได้รับผลกระทบบางส่วน ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งมีน้ำเพียงพอก็เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ตามรอบอายุเก็บเกี่ยวและต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนจะได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน
พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นแหล่งผลิตอาหาร “กรีนมาร์เกต” เน้นเกษตรอินทรีย์ อาหารปลอดภัย สำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เกษตรทุกอำเภอ มอบหมายเกษตรตำบลลงพื้นที่สำรวจ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ทุกอำเภอ ตั้งแต่หลังสิ้นฤดูฝนปีที่ผ่านมา พบว่าเกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกพืชตามปริมาณน้ำที่มีอยู่ เช่น ลดพื้นที่เพาะปลูก ปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย เมื่อประสบภาวะฝนทิ้งช่วงดังกล่าวจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ประกอบกับเมื่อ 2 วันที่ผ่านมามีฝนตกลงมาในพื้นที่ สร้างความชุ่มชื้นให้พื้นผิวดินและหล่อเลี้ยงพืชผลได้บ้าง คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหากมีฝนตกลงมา ทั้งนี้ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่มีประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง