xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อแฉยิบ! “เจ๊แอปเปิ้ล” ตั้งบริษัทลวงขายที่ดินทิพย์เชียงใหม่ ทั้งไทย-ต่างด้าวหลงเชื่อจ่ายครบโอนไม่ได้นับพันราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เหยื่อรุมแฉ.. “เจ๊แอปเปิ้ล” สาวใหญ่ตั้งบริษัทอสังหาฯ ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ก่อนยืมโฉนดโฆษณาแบ่งขายให้ลูกค้าวางเงินดาวน์-ผ่อนตรง สุดท้ายเชิดทั้งเงินมัดจำ/ค่างวด คนหลงกลนับพันราย คาดมูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้าน


ความคืบหน้ากรณีนายนัตถ์ธนินทร์ สินเจริญ อายุ 51 ปี น.ส.กุลริสา มูณละศรี อายุ 39 ปี พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน นำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการซื้อขาย สลิปการโอนเงิน และเอกสารอื่นๆ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.รัถย์ศานต์ ประจิตร์ รอง สว.สอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังถูกหลอกขายที่ดินทิพย์ผ่อนฟรีไม่มีโฉนดอยู่จริงให้ จนสูญเงินรวมกันหลายล้านบาท

ล่าสุดกลุ่มผู้เสียหายนำเอกสารหนังสือสัญญา ใบเสร็จรับเงิน สำเนาโฉนดที่ดินหลายแปลง ยืนยันต่อผู้สื่อข่าวหลังจากได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินจัดสรรจากบริษัทดังกล่าวที่มีการโฆษณาขายที่ดินผ่านโลกโซเชียลฯ และป้ายโฆษณา หลายสื่อ ซึ่งเป็นลักษณะขายที่ดินจัดสรร ผ่อนกับเจ้าของโครงการ 3 ปีโดยตรงไม่ผ่านธนาคาร พร้อมกับสาธารณูปโภค ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า ครบ ก่อนที่จะรู้ตัวอีกทีเป็นที่ดินไม่ใช่ของบริษัท กลายเป็นว่าผู้เสียหายผ่อนกระดาษเปล่า พอทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง จนต้องรวมตัวกันแจ้งความแต่คดียังไม่คืบหน้า

นายนัตถ์ธนินทร์ สินเจริญ อายุ 51 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุทธยา หนึ่งในเหยื่อที่ถูกหลอก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เห็นโฆษณาขายที่ดินจัดสรรจากบริษัทดังกล่าวทางโลกออนไลน์ จึงได้ติดต่อกับบริษัท เนื่องจากสนใจจะซื้อที่ปลูกบ้านให้ลูกสาวที่อยากมาเรียนที่เชียงใหม่

และได้เดินทางไปดูที่ดินในพื้นที่ อ.เมืองลำพูน ติดกับ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และมีการทำสัญญาซื้อขาย วางเงินมัดจำ 40% และโอนเงินผ่อนชำระกับบริษัทจนเกือบจะครบแล้ว มาทราบภายหลังว่าที่ดินผืนที่ตนซื้อไม่สามารถโอนได้ ทางบริษัทจึงโยกที่ดินบริเวณหมู่บ้านน้ำโจ้ อ.สารภี ขายให้แทน แต่ก็มีปัญหาโอนที่ดินไม่ได้อีก

เนื่องจากบริษัทของ “เจ๊แอปเปิ้ล” ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ตนจึงสอบถามไปยังเซลส์ของบริษัท และนำสำเนาโฉนดที่ดินไปตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินอำเภอสารภี พบว่ามีคนอื่นเป็นผู้ครอบครอง ร่วมกับหลายคนเกินจำนวน ปริมาณที่ดินจะแบ่งขายก่อนที่จะพบว่ามีการขายที่ดินให้รายอื่นไปแล้ว เมื่อขอข้อมูลจากเซลส์ของบริษัทที่ลาออกไปแล้วพบว่าบริษัทมีที่ดินจัดสรรขายกระจายหลายอำเภอรอบตัวเมืองเชียงใหม่ รวม 12 แปลง มีผู้ทำสัญญานับพันคน


พฤติกรรมของ “เจ๊แอปเปิ้ล” จะตั้งบริษัทรับซื้อที่ดินเพื่อนำมาจัดสรร โดยทำสัญญาจะซื้อจะขายกับเจ้าของที่ดินแล้ววางเงินมัดจำ ก่อนขอยืมหน้าโฉนดที่ดินมาแอบอ้างกับลูกค้าว่าจะจัดสรรที่ดินขาย บอกกับเจ้าของที่ดินว่าจะมีการชำระเงินที่ค้างไว้ให้ทีหลัง

หลังจากนั้นจะจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาพัฒนาพื้นที่ ถมที่ ทำถนน ตั้งสำนักงานโครงการชั่วคราว ให้ดูน่าเชื่อถือ ก่อนจะประกาศขายที่ดินผ่านโซเชียลฯ และโฆษณาอื่นๆ ผ่านเซลส์ของบริษัท คล้ายโครงการหมู่บ้านจัดสรร

เมื่อลูกค้าหลงเชื่อก็จะนัดมาทำสัญญาที่สำนักงานโครงการ โดยมีการแนบสำเนาโฉนดที่ถูกปกปิดข้อมูลผู้ครอบครอง หรือข้อมูลผู้ครอบครองไม่ครบถ้วนมาให้ลูกค้าดูเพื่อความมั่นใจ หลังจากนั้นจึงเก็บค่ามัดจำ 40% โดยให้ลูกค้าจ่ายค่างวดทุกเดือนเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งในสัญญาระบุว่าหากผ่อนค่างวดไปได้ 3 เดือน สามารถเข้ามาดำเนินการพัฒนาที่ดินทำรั้ว ปลูกบ้านได้

กระทั่งขายที่ดินแปลงนั้นๆ ให้ลูกค้าจนหมด แต่ไม่นำเงินไปจ่ายให้กับเจ้าของที่ดินที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ ทำให้ลูกค้าบางรายที่ผ่อนชำระค่างวดครบไม่สามารถโอนที่ดินได้ ทางบริษัทจะหลอกว่าที่ดินมีปัญหา แล้วเปลี่ยนสัญญาให้ไปซื้อที่ดินแปลงอื่นแทนหมุนเปลี่ยนที่ดินไปเรื่อยๆ แล้วปิดบริษัทหลบหนีไป

นายนัตถ์ธนินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในกลุ่มผู้ที่ถูกหลอกทราบว่าที่ดินแปลงที่ตนทำสัญญาซื้อจากบริษัท ได้มีการขายซ้อนกันถึง 3 ราย และทราบว่าทางบริษัทได้หลอกขายที่ให้แรงงานต่างด้าวหลายแปลง ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวหลังจากถูกหลอกแล้วไม่กล้าติดตามทวงคืนเงินจากบริษัทได้เนื่องจากกลัวถูกจับ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูกค้าหลายรายทราบว่าถูกหลอกจึงได้รวมตัวกันแจ้งความไว้ที่โรงพักต่างๆ ในพื้นที่ที่ซื้อที่ดินแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่อยากได้เงินคืนเกรงว่า “เจ๊แอปเปิ้ล” จะหนีไป และมีการหลอกลวงจัดสรรที่ดินขายพื้นที่อื่นอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการทางการกฎหมายต่อกลุ่มคนพวกนี้อย่างเร่งด่วน


ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี หนุ่มไรเดอร์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่าถูกหลอกซื้อที่ดินตนกับแฟนแทบช็อก เนื่องจากตนทั้งสองนำเงินที่สะสมมาทั้งชีวิตรวม 3 แสนกว่าบาทมาวางมัดจำกับบริษัท ผ่อนไปได้เกือบปี เงินสะสมมาทั้งชีวิตหวังที่จะสร้างบ้านอยู่มีครอบครัวที่อบอุ่น เนื่องจากทุกวันนี้ต้องเช่าที่ดินวัดอยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม ตนยังมีความหวังที่จะได้เงินก้อนดังกล่าวคืนถึงแม้อาจจะได้คืนไม่ครบก็ตาม

ส่วนนางสาวเจี๊ยบเปิดเผยว่า ตนได้ทำสัญญาซื้อที่ดินในพื้นที่ อ.สันกำแพง จากบริษัทรวมทั้งหมด 5 แปลง จ่ายเงินค่ามัดจำและค่างวดรวมเกือบ 1 ล้านบาท หวังว่าจะซื้อไว้ปลูกบ้านอยู่อาศัยกับพี่สาวที่กำลังจะกลับจากเมืองนอกเร็วๆ นี้ ฝันที่วาดไว้คงจะสลายไป อย่างไรก็ตามเมื่อฟังเรื่องราวจากคนอื่นๆ ที่ลำบากกว่าตนยังพอมีกำลังใจที่จะต่อสู้ และทวงความยุติธรรมบ้าง และขอให้ทุกคนที่ถูกหลอกได้รับความยุติธรรมเร็วๆ นี้


ด้านว่าที่ ร้อยตรี อุทัน ใบยา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาสารภี ให้ข้อมูลว่า กรณีแบบนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะการโฆษณาซื้อขายที่ดินตามสื่อสังคมออนไลน์ ทางสำนักงานที่ดินไม่มีสิทธิไปตรวจสอบ และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ให้คำแนะนำว่าก่อนที่จะตัดสินใจมัดจำซื้อที่ดิน หากผู้ที่จะซื้อมีข้อสงสัยในที่ดินแปลงใด สามารถเข้าไปตรวจสอบโฉนดคู่ฉบับที่สำนักงานที่ดินได้ เนื่องจากเอกสารสิทธิในที่ดินในทะเบียนที่นำมาให้ดูนั้นอาจไม่อัปเดต ทางที่ดีเข้าไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจะดีที่สุด เพราะคนที่คิดจะหลอกมีวิธีการต่างๆ มากมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น