เชียงใหม่ - พ่อค้าขายหมูปิ้งย่านวัดอุโมงค์ เชียงใหม่ ถูกฝูงผึ้งหลวงบินไล่รุมต่อยจนต้องวิ่งหนีตายสุดชีวิต โชคดีสาวเจ้าของร้านอาหารที่อยู่ใกล้เห็นเหตุการณ์รีบช่วยโยนผ้าปูโต๊ะให้ใช้คลุมป้องกันตัวจนรอดหวุดหวิด แต่ระบมทั่วทั้งตัว ล่าสุดประสานเทศบาลเข้าตรวจสอบหารังผึ้งจนพบอยู่ห่างจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร เตรียมเคลื่อนย้ายออกจากชุมชน หวั่นเกิดเหตุซ้ำโดยเฉพาะกับกลุ่มที่มีอาการแพ้พิษผึ้งอาจถึงขั้นเสียชีวิต
วันนี้ (25 เม.ย. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งความคืบหน้ากรณีโซเชียลมีเดียแชร์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหนีฝูงผึ้งหลวงที่รุมต่อยผ่านหน้าร้านแห่งหนึ่งไปแล้ว ก่อนที่จะวิ่งย้อนกลับมาและได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านขายอาหารดังกล่าวที่โยนผ้าคลุมโต๊ะให้ใช้ป้องกันตัวจนรอดอย่างหวุดหวิด แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการถูกฝูงผึ้งหลวงรุมต่อยจนระบมไปทั่วทั้งตัว ซึ่งคลิปดังกล่าวมีผู้เข้าชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่านวัดอุโมงค์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่าเจ้าของคลิปดังกล่าวคือ นางสาววนัชพร บุญทวี อายุ 27 ปี เจ้าของร้านคลีนเหนือมอ ย่านวัดอุโมงค์ และเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ชายที่ถูกฝูงผึ้งรุมต่อยดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.05 น.วานนี้ (24 เม.ย. 66) ระหว่างที่เปิดร้านขายของอยู่แต่ปิดประตูกระจกหน้าร้านไว้ เห็นผู้ชายที่เป็นพ่อค้าขายหมูปิ้งตั้งอยู่ไม่ห่างร้าน วิ่งส่งเสียงดังพร้อมกับยกมือปัดป้องผ่านหน้าร้านไป แต่สักพักวิ่งย้อนกลับมาล้มลงที่หน้าร้าน ทำให้ตัวเองเห็นว่ากำลังโดนฝูงผึ้งไล่ต่อย จึงตั้งสติหยิบผ้าคลุมโต๊ะในร้านแล้วเปิดประตูโยนออกไปให้พ่อค้าหมูปิ้งใช้คลุมตัวป้องกันตัวจากฝูงผึ้ง
หลังจากที่ใช้ผ้าคลุมได้สักพักหนึ่งแล้วฝูงผึ้งได้บินหนีไป และตัวเองได้เปิดประตูร้านนำตัวพ่อค้าหมูปิ้งเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล พร้อมกับเรียกรถกู้ภัยมาให้การช่วยเหลือจนปลอดภัย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองรู้สึกตกใจมาก และนำคลิปไปโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งประสานไปยังเทศบาลตำบลสุเทพ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ให้สำรวจหารังผึ้งหลวงดังกล่าวและทำการย้ายออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน โดยเฉพาะเด็กๆ และผู้ที่มีอาการแพ้พิษผึ้ง เพราะอาจถึงขั้นเสียชีวิต โดยล่าสุดพบรังผึ้งหลวงขนาดประมาณ 30-40 เซนติเมตร อยู่บนหอพักแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลเตรียมทำการย้ายออกไปจากชุมชน พร้อมกับสำรวจว่ายังมีรังผึ้งหลวงรังอื่นๆ ที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายอีกหรือไม่
ด้านผู้ชายที่ถูกฝูงผึ้งรุมต่อยตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวนั้น พบว่าตั้งร้านขายหมูปิ้งอยู่ห่างจากร้านอาหารคลีนที่ให้ความช่วยเหลือประมาณ 50 เมตร โดยวันนี้ (25 เม.ย. 66) กลับมาเปิดร้านขายหมูปิ้งตามปกติพร้อมกับภรรยา แต่สภาพทั่วทั้งร่างกายยังคงระบมและเต็มไปด้วยร่องรอยจากการโดนฝูงผึ้งรุมต่อย ทั้งนี้ นายนิกร (นามสมมติ) พ่อค้าหมูปิ้ง อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า เปิดร้านขายมาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุใดๆ กระทั่งเมื่อวานนี้ช่วงเกิดเหตุกำลังขายหมูปิ้งอยู่ ปรากฏว่ามีผึ้งหลวงจำนวน 2 ตัว บินมาต่อยที่บริเวณศีรษะ และหลังจากนั้นก็มีฝูงผึ้งหลวงจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนบินมารุมต่อยจนทำให้ตัวเองต้องวิ่งหนีตายตามภาพที่ปรากฏในคลิป จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือปฐมพยาบาลและได้รับยาแก้ปวดกับยาแก้แพ้มารักษาดูอาการต่อที่บ้าน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าตัวเองถูกผึ้งต่อยและมีร่องรอยบาดแผลไม่น้อยกว่า 10 จุด ส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณศีรษะ แต่โชคดีที่ไม่มีอาการแพ้พิษผึ้ง ไม่เช่นนั้นแล้วอาการน่าจะสาหัสรุนแรงกว่านี้ ซึ่งยังมีอาการเจ็บปวดอยู่ แต่ออกมาเปิดร้านขายของได้ ส่วนภรรยาโดนผึ้งต่อยเช่นกันประมาณ 2 ตัว ทั้งนี้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร แต่เชื่อว่าควันจากเตาปิ้งหมูไม่น่าจะเป็นต้นเหตุและเท่าที่ดูบริเวณรอบๆ ร้านก็ไม่พบว่ามีรังผึ้งด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับธรรมชาติของผึ้งหลวงนั้น ตามปกติมักจะทำรังอยู่ในพื้นที่ป่า แต่ในช่วงฤดูร้อนหรือหน้าแล้งที่เกิดสภาพแห้งแล้งและมีไฟไหม้ป่า ผึ้งหลวงจะหนีออกจากป่ามาทำรังตามต้นไม้ และบ้านเรือนประชาชน ขณะที่เมื่อผ่านพ้นช่วงสภาพแห้งแล้งและไม่มีไฟไหม้ป่าแล้วจะย้ายรังกลับไปในป่าตามเดิม ซึ่งลักษณะนิสัยของผึ้งหลวงนั้นจะค่อนข้างดุร้ายและหวงรัง โดยหากรู้สึกว่าถูกรบกวนหรือคุกคามทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็พร้อมจะโจมตีทันที