พิจิตร – พรานปลาทั่วสารทิศ แห่ซื้อบัตรเข้าร่วมแข่งขันเหวี่ยงแหจับปลากลางหนองพิงใจ แหล่งน้ำใหญ่โพทะเล กันอย่างคึกคัก แต่ละคนไม่พลาดได้ปลาตัวใหญ่ทั้งชะโด ยี่สก สวาย ฯลฯ ติดแหกันทั่วหน้า
วันนี้(22 เม.ย.66)นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานเปิดงานการแข่งขันทอดแหจับปลา ซึ่ง นางโชติกา พึงไชยวรา กำนันตำบลบ้านน้อย อ.โพทะเล และคณะกรรมการหมู่บ้าน จัดขึ้นที่หนองพิงใจ หนองน้ำสาธารณะเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ในหมู่ 5 บ้านหนองแขม ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล
ซึ่งหนองพิงใจ เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่เกษตรกรใช้น้ำในการทำนา รวมถึงใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาต่างๆ โดยมีการอนุรักษ์ปลาที่อยู่ในแหล่งน้ำแห่งนี้ถึง 2 ปี ก่อนเปิดให้คนที่ชื่นชอบเกมกีฬาแข่งขันทอดแหหาปลามาซื้อบัตรแล้วได้ทอดแหจับปลา ในราคาคนละ 200 บาท
ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีผู้ที่ชื่นชอบทอดแหจับปลาจากทั่วทุกสารทิศกว่า 400 คน ซื้อบัตรในราคาคนละ 200 บาท เข้าร่วมแข่งกันอย่างคึกคัก ซึ่งแต่ละคนจะต้องนำแหของตนเองมาใช้ในการจับปลาพร้อมอุปกรณ์หลักทุ่นโฟมลอยน้ำที่คณะกรรมการหมู่บ้านจัดวางตำแหน่งไว้ให้ตามหมายเลขบัตร จำนวนกว่า 400 หลัก ห่างกันคนละ 5 เมตร เพื่อให้หว่านแหได้แค่รอบๆตัวเท่านั้นเรียกได้ว่ายืนเรียงกันเป็นแถวเป็นแนวเต็มท้องน้ำกันเลยทีเดียว
เมื่อเสียงประกาศของคณะกรรมการจัดงานให้สัญญาณเพื่อเริ่มการแข่งขัน พรานปลากว่า 400 คน ที่ซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ต่างโชว์ลีลาทอดแหตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมการแข่งขันส่วนใหญ่ล้วนได้ปลามาติดแหขึ้นกันทั่วหน้า เช่น ปลายี่สก ปลานิล ปลาสวาย ปลาฉลาด ปลาชะโด ซึ่งเป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าที่มายืนรอรับซื้อถึงหน้าบึง โดยปลานิลรับซื้อหน้าบ่อที่ กิโลกรัมละ 60 บาท ปลาชะโดกิโลกรัมละ 45 บาท และปลายี่ศกเทศกิโลกรัมละ 35 บาท
นอกจากนั้นยังมีการประกวดแข่งขันใครทอดแหจับปลาได้ปลาขนาดใหญ่ที่สุด ภายในเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากพิธีเปิดก็จะได้รางวัลเป็นข้าวสารกระสอบใหญ่ ซึ่งพบว่ามีผู้ทอดแหได้ปลาชะโดตัวใหญ่น้ำหนักมากที่สุดถึง 5.8 กิโลกรัม ได้รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 เป็นข้าวสาร 3 กระสอบ ส่วนรางวัลที่ 2 ข้าวสาร 2 กระสอบ และรางวัลที่ 3 ข้าวสาร 1 กระสอบ
นางโชติกา พึงไชยวรา กำนันตำบลบ้านน้อย อ.โพทะเล และคณะกรรมการของหมู่บ้าน ให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้ก็จะปิดหนองพิงใจเป็นเวลา 2 ปี เพื่ออนุรักษ์ปลาชุดใหม่ที่นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร จะนำมาปล่อยลงแหล่งน้ำแห่งนี้ รอจนกว่าปลาจะขยายพันธุ์หรือโตเต็มวัยก็จะขายบัตรจัดแข่งขันทอดแหหาปลาเพื่อนำเงินรายได้มาดูแลแหล่งน้ำสาธารณะแห่งนี้และทำสาธารณะประโยชน์ให้กับชุมชนต่อไปด้วย