สมุทรสงคราม - เต้ มงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ลุยสวนลิ้นจี่หาเสียงให้พรรค บอกมั่นใจได้ ส.ส. เขตและปาร์ตี้ลิสต์ไม่น้อยกว่า 14 คน ยืนยันไม่แก้ ม.112
วันนี้ (20 เม.ย.) นายมงคลกิตติ์ หรือ “เต้” สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 42 พร้อมด้วย น.ส.ภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายอดิศร สังข์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค และ น.ส.เยาวเรศ ชินภักดี รองโฆษกพรรค ได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม
โดยได้เข้าสักการะศาลหลักเมืองเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย จากนั้นได้ขึ้นรถปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ก่อนจะลงเดินหาเสียงให้พรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อขอคะแนนปาตี้ลิสให้ตนเอง ที่ตลาดแม่กลอง และตลาดร่มหุบ เนื่องจากพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ได้ส่ง ส.ส.เขตใน จ.สมุทรสงคราม โดยพบปะพ่อค้าแม่ค้า และผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของโดยได้รับการต้อนรับจากแฟนคลับขอถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
จากนั้นนายมงคลกิตติ์ และทีมงานยังได้เดินทางไปที่ ต.แควอ้อม แหล่งปลูกลิ้นจี่ที่มีชื่อเสียงของ อ.อัมพวา และเมื่อเห็นชาวสวนกำลังปืนพะองขึ้นต้นลิ้นจี่เก็บผลผลิต นายมงคลกิตติ์ ก็สนใจขอลองปีนพะองที่ความสูงประมาณ 6 เมตรขึ้นไปเก็บลิ้นจี่บ้าง ซึ่งอดีต ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ปีนลำบากเพราะกางเกงฟิต แต่สามารถปีนขึ้นไปเก็บลิ้นจี่ได้ แต่เมื่อลงจากต้นลิ้นจี่ถึงกับเหนื่อยหอบ พร้อมพูดว่า ปกติจะไม่เหนื่อยขนาดนี้เพราะภาระประเทศไม่เยอะ แต่ปัจจุบันภาระประเทศคนเก่าสร้างไว้เยอะ วันนี้ปีนต้นลิ้นจี่เหนื่อยมาก
จากการพบชาวสวนลิ้นจี่วันนี้เป็นห่วงเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาไม่ออกผลเพราะมันเครียดผู้บริหารประเทศ ปีนี้ลิ้นจี่ออกเยอะเพราะดีใจจะได้เปลี่ยนผู้บริหารประเทศ พร้อมท้าลุงตู่ ลุงป้อม ก่อนบริหารประเทศมาปีนต้นลิ้นจี่แข่งกับตน อีกทั้งยังชวนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มาปีนต้นลิ้นจี่แข่งกับตนด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของ จ.สมุทรสงคราม เป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ทำให้ชาวสวนมีการโค่นต้นจำนวนมากจากนับหมื่นไร่เหลือเพียง 5,000 กว่าไร่ หากให้ผลผลิตดีเช่นปีนี้มีถึง 5,000 ตัน คิดราคาต่ำสุดกิโลกรัมละ 120 บาท จะมีรายได้ปีละ 600 ล้านบาท หากตนเข้ามาบริหารประเทศจะเข้ามาดูแลชาวสวนลิ้นจี่ หากปีไหนลิ้นจี่ไม่ให้ผลผลิตต้องดูแลชาวสวนอย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าลิ้นจี่ที่เคยได้ อย่างน้อยเป็นกำลังใจให้ชาวสวนไม่คิดโค่นต้นลิ้นจี่พันค่อมที่อร่อยขึ้นชื่อให้สูญพันธุ์ไปจาก จ.สมุทรสงคราม ส่วนปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำแก้ง่ายๆ แค่ไม่ต้องนำเข้ามะพร้าวจากประเทศเพื่อนบ้านทำให้ราคามะพร้าวในประเทศขยับขึ้นแล้ว
นายมงคลกิตติ์ เผยอีกว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ส่งผู้สมัคร 35 จังหวัด ถือเป็นพรรคขนาดกลางที่สู้ด้วยนโยบายในการซื้อใจประชาชน เน้นลงพื้นที่จริงใจไม่ซื้อเสียง ไม่ดูด ส.ส.ไม่ซื้อ ส.ส.และไม่เอา ส.ส.ขายตัวมาอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่าจะได้ไม่น้อยกว่า 7 คน ที่มั่นใจมีทั้ง จ.ราชบุรี จ.นนทบุรี จ.อ่างทอง จ.นครปฐม จ.ยะลา จ.ปัตตานี และกรุงเทพฯ เป็นต้น ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์นั้นตั้งความหวังว่าจะได้ 2,000,000 คะแนน ได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 7 คนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากตนได้เป็น ส.ส.อีกครั้งจะเข้าร่วมกับรัฐบาลแน่นอนเพราะต้องเข้ามาทำตามนโยบาย เช่น เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยเดือนละ 3,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 5,000 บาท เบี้ยคนจน เบี้ยคนพิการ ค่าป่วยการ อสม.อปพร. เดือนละ 3,000 บาท โดยนำเงินมาจากการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษกาสิโน นำเงินรายได้มาจัดสวัสดิการรัฐโดยไม่ต้องมาขูดรีดภาษีกประชาชน และไม่ต้องกู้เงินเป็นหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ยืนยันว่าพรรคไทยศิวิไลย์จะร่วมเป็นรัฐบาลแน่นอน แต่จะไม่จับมือกับพรรคที่ต้องการแก้มาตรา 112 และพรรคที่ทุจริตคอร์รัปชันเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทางกลับ นายมงคลกิตติ์ ยังหยอดมุกโดยหยิบใบลิ้นจี่ขึ้นมาจ้องมองแล้วพูดว่า นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมตอบเองว่า ดูใบมา 16 ปี แล้วยังไม่กลับมาซะที กลับมาเมื่อไหร่จะไปรับ