อุดรธานี - ชาวบ้านนาพู่ยิ้มรับหน้าร้อน ตาลโตนดให้ผลผลิต เผยชาวบ้านหลายรายยึดอาชีพผ่าจาวตาลขายผลตาลสดริมถนน ลูกค้าซื้อไปรับประทานคลายร้อน ชี้สร้างรายได้ดีแก่ท้องถิ่น บางรายโกยรายได้ให้ครอบครัวช่วงหน้าร้อนร่วมแสนบาท
ช่วงหน้าร้อนของทุกปีนั้น เป็นฤดูกาลที่ต้นตาลให้ผลผลิตลูกตาลจำนวนมาก ริมถนนหลายสายในภาคอีสานมักจะเห็นรถกระบะนำเอาผลตาลมาเฉาะเอาลูกตาลสดบรรจุถุงขายให้ลูกค้าที่ขับรถยนต์ผ่าน แวะจอดซื้อผลตาลสดไปรับประทานคลายร้อน โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีต้นตาลโตนดอยู่จำนวนมาก เมื่อผ่านเส้นทางแถบนี้จึงมักเห็นคนขายลูกตาลสดอยู่จำนวนมาก
นายหัสสาร เมืองหมี หรือแดง อายุ 50 ปี ชาวบ้านกิ่ว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พ่อค้าที่มาปักหลักผ่าจาวตาลสดขายริมถนน เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลนาพู่มีต้นตาลราว 3,000 ต้น จะเป็นต้นตาลโตนดที่เกิดอยู่ตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้าน ตนและภรรยา ซึ่งประกอบอาชีพขายลูกตาลสด จะตระเวนไปขอซื้อแบบเหมาป่าตาล โดยจะพิจารณาจากปริมาณความดก, ความแก่อ่อนที่สามารถเก็บลงมาเฉาะขายได้กี่มากน้อย
สำหรับราคาซื้อตาล จะอยู่ที่แปลงละ 1,000-2,000 บาท ชาวบ้านเจ้าของที่จะขายให้ ส่วนเรามีหน้าที่เก็บลูกตาล รวมทั้งตัดแต่งกิ่งก้านใบให้สวยงาม เมื่อถึงฤดูทำนา เจ้าของที่นาก็จะทำนาได้สะดวก เมื่อเฉาะตาลออกมาแล้วจะบรรจุลูกตาลใส่ถุง ขายแพกละ 35 บาท แต่ละแพกมี 5-6 ชิ้น แต่ถ้ามีแม่ค้าคนกลางรับไปขาย ก็จะนำไปขายต่อที่แพกละ 50 บาท ส่วนรายได้ฤดูกาลหนึ่งระหว่างเดือนเมษายน-ต้นมิถุนายน โดยรวมจะมีรายได้เข้าเกือบแสนบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ การเฉาะลูกตาลขายริมถนน เฉาะลูกตาลสดๆ จะขายดีกว่าการนำลูกตาลไปขายที่ตลาด ลูกค้ามักจะมาอุดหนุนมากกว่าปกติ เพื่อต้องการกินลูกตาลสด เมื่อกัดเข้าไปจะได้กินน้ำในจาวตาล อร่อย สดชื่น ทำให้ลูกค้าหลายๆ คนยอมที่จะมายืนรอกินสดๆ ริมถนนกันเลยทีเดียว
ด้านนายมณีแดง ซุยเสนา อายุ 35 ปี ชาวบ้านดงมะไฟ ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ให้ข้อมูลว่า ทุกวันนี้ราคาตาลโตนดดีขึ้นมาก ลูกตาลจะสามารถขายกันเป็นลูกๆ ตกลูกละ 7-10 บาท การเก็บลูกตาลจะต้องใช้คนที่มีทักษะขึ้นเก็บลูกตาล ได้ค่าจ้างสูงถึงวันละ 1,000 บาท เหตุที่ต้องจ่ายค่าจ้างสูงนั้นเพราะไม่ค่อยมีคนปีนเก็บตาล ทั้งการขึ้นเก็บลูกตาลต้องใช้ทักษะ ความสามารถ ต้องระมัดระวัง มีสติ อาจตกต้นตาลได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญคนเก็บตาลจะต้องดูลักษณะตาลออกว่าแก่หรืออ่อน และเก็บผลผลิตไม่ให้ตกแตกเสียหาย
ขณะเดียวกัน คนทำอาชีพปีนต้นตาลมีน้อยลง เพราะค่อนข้างเสี่ยง อย่างที่บ้านดงมะไฟ เป็นพื้นที่หลักที่ยังมีคนประกอบอาชีพปีนเก็บตาล และให้ลูกหลานที่เป็นผู้หญิงทำหน้าที่เฉาะตาลขาย ซึ่งมองว่า ต้นตาลโตนด นอกจากเป็นไม้เศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นสินทรัพย์ที่บรรพบุรุษปลูกไว้ ให้ลูกหลานได้เก็บเกี่ยว สร้างงานและรายได้
ทั้งนี้ ต้นตาลแต่ละต้น กว่าจะให้ผลผลิต ต้องใช้เวลาปลูกไม่น้อยกว่า 20-30 ปี เมื่อเห็นคนโค่นต้นตาลทิ้ง ในฐานะคนทำตาลขายก็รู้สึกใจหาย อยากให้เก็บไว้ เพราะนอกจากทรงคุณค่าแล้ว ผืนนาที่มีต้นตาลนั้นก็ดูมีเสน่ห์แบบท้องถิ่นอีกด้วย