พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจทางหลวงอยุธยา เรียกตรวจกระบะแค็บต้องสงสัย 2 คัน ถึงกับผงะ พบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอัดแน่นมามากถึง 23 คน บนถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 47-48 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน
วันนี้ (19 เม.ย.) พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 ทางหลวงอยุธยา ได้สั่งการให้รถยนต์สายตรวจเพิ่มความเข้มในการตรวจกลุ่มขบวนการที่มักจะใช้รถยนต์ในการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเข้ามาทำงานในพื้นกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
โดยเมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่รถยนต์สายตรวจ ของตำรวจทางหลวงอยุธยา กำลังออกตรวจอยู่บนถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตร ที่ 47-48 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์กระบะ ต้องสงสัย 2 คัน เป็นรถยนต์กระโตโยต้าวีโก้ แค็บ สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ 5128 กำแพงเพชร และรถยนต์กระบะอีซุซุแค็บ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 661 พิษณุโลก ลักษณะรถเหมือนบรรทุกสิ่งของมา แต่ภายในกระบะไม่มีการบรรทุกสิ่งของ จึงได้ ส่งสัญญาณไฟเพื่อเรียกรถยนต์กระบะให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ
ภายในรถยนต์กระโตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ 5128 กำแพงเพชร มีนายศิรพัฒน์ อายุ 31 ปี ชาวตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก เป็นคนขับ ภายในรถอัดแน่นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ทั้งหมด 11 คน ส่วนรถยนต์กระบะอีซุซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 661 พิษณุโลก มีนายวัชรพงศ์ อายุ 41 ปี ชาวตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก เป็นคนขับ พร้อมกับแรงงานต่างด้าวอัดแน่นมาภายในรถจำนวน 12 คน รวมทั้งสิ้น 23 คน เป็นหญิง 9 คน ชาย 14 คน ไม่มีใครมีเอกสารติดตัว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมมาที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง
ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ได้ออกตรวจบนถนนพหลโยธิน พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย 2 คัน ลักษณะบรรทุกหนักผ่านมาช่วงตลาดประตูน้ำพระอินทร์ จึงได้เรียกตรวจพบว่ามีแรงงานต่างด้าวอัดแน่นมาในรถทั้ง 2 คัน ไม่พบว่ามีเอกสารจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
สอบถาม นายวัชรพงศ์ คนขับรถยนต์กระบะอีซุซุ ให้การรับสารภาพว่า ได้รู้จักกับแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในประเทศไทยชักชวนให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่ตัวเมืองจังหวัดตาก ในค่าหัวคนละ 1,000 บาท เพื่อเข้ามาส่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงไปรับมาเมื่อช่วงตี 3 มาถึงที่เกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมได้เสียก่อน
นายแงะยู อายุ 28 ปี ชาวพม่า ซึ่งเป็น 1 ในที่ถูกจับกุมในครั้งนี้กล่าวว่า เคยอยู่ประเทศไทยทำงานอยู่ในโรงงานเส้นหมี่แห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่แล้ว และได้กลับไป มาครั้งนี้จึงได้ชวนพรรคพวกรู้จักกันมาด้วย 4-5 โดยเสียคนละประมาณ 1-2 หมื่นบาท โดยจะเป็นการเข้ามาก่อนแล้วทำงานใช้หนี้ให้นายหน้าที่นำเข้ามา โดยที่เข้ามาครั้งนี้มาจากชายแดนแม่สอด ทางช่องทางธรรมชาติ และมาเจอกันกับอีกหลายคนก่อนเดินทางมาด้วยกันและถูกจับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัวผู้ต้องหาและแรงงานต่างด้าว ส่งพนังกานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
