พิจิตร - “บิ๊กโจ๊ก” ลั่นจะกลับมาวัดหลวงพ่อเงินบางคลานอีกครั้งแน่..หลังบินด่วนลงพื้นที่เคลียร์ปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานร่วมทศวรรษ แถมทวีความรุนแรงถึงขั้นยกกำลังบุกยึดวัด-ยึดวิหาร ทำร้ายร่างกายเลือดตกยางออกคาลานวัด จนสงกรานต์ปีนี้มีคนเข้าวัดทำบุญวันละไม่ถึง 20 คน
เป็นเวลาถึง 9 ปีเต็ม วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน มีแต่เหตุวุ่นวาย ประท้วง บุกยึดวัด ยึดวิหารหลวงพ่อเงิน ใช้กำลังชกต่อย ทุบตี กรรมการ และคนงานของวัด ล่าสุดเย็นวันที่ 17 เม.ย. 66 บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ บินด่วนมาลงที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอโพทะเล ซึ่งตั้งอยู่หน้า สภ.โพทะเล
ก่อนประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.สส.ภ.6, พล.ต.ต.กำธร จันที ผบก.ภ.จว.พิจิตร, นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, นายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล ที่ห้องประชุม สภ.โพทะเล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานสืบเนื่องจากเมื่อ พ.ศ. 2557 เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ (สมเด็จช่วง) แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ในขณะนั้น (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) หย่อนความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากร ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดฯ แทน และได้มีการตรวจสอบทรัพย์สินเงินทองของทางวัดที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาทจนกลายเป็นเหตุฟ้องร้องต่อสู้คดีกันชุลมุนวุ่นวายยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
กระทั่ง 5 เม.ย. 66 เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการบังคับคดีให้มีการส่งมอบทรัพย์สินวัด โดยมีเจ้าพนักงานตำรวจ ฝ่ายปกครองช่วยเหลือการบังคับคดี แต่มีกลุ่มที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสรวมตัวกันขวางไม่ให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
และต่อมาวันที่ 6 เม.ย. 66 เวลากลางวัน ก็มีชายชุดดำประมาณ 12 คนบุกรุกเข้ามาในวัดเข้าไปภายในกุฏิสามฤดูทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัดที่นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในกุฏิ และลากตัวออกมาทำร้ายร่างกายต่อที่เชิงบันไดกุฏิ รวมทั้งเข้าทำร้ายร่างกายของนายอำนาจ พรายพร ไวยาวัจกร รวมถึงคนงานของวัด พร้อมยึดวิหารหลวงพ่อเงินและเข้าควบคุมวัด
ซึ่งพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จึงเป็นที่มาของวันนี้ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล “บิ๊กโจ๊ก”
รอง ผบ.ตร.ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าจะดำเนินการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว เพราะหลวงพ่อเงินวัดบางคลานเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งประเทศ ปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวนับพันคนมานมัสการกราบไหว้ทำบุญ แต่ปีนี้ได้รับรายงานว่ามีคนเข้าวัดหลวงพ่อเงินไม่ถึง 20 คน/วัน
ดังนั้น หากไม่รีบแก้ปัญหาการท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรจะได้รับความเสียหาย ซึ่งเรื่องราวนี้ยืดเยื้อยาวนานเกือบ 10 ปี ถึงวันนี้ได้เวลาที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง “บิ๊กโจ๊ก” กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานรูปปัจจุบันจะนำปัญหาไปปรึกษาหารือพระผู้ใหญ่ คือ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เพื่อขอรับฟังข้อชี้แนะและทางออก
พร้อมทั้งจะจัดตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะหากตรวจสอบแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะเกิดความแคลงใจเรื่องก็จะไม่มีทางจบลงได้สักที ส่วนการดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรม ก็คงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
กรณี พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่ได้รับการแต่งตั้งแล้ววันนี้ไม่สามารถเข้าวัดได้ก็ต้องดำเนินการให้ท่านสามารถเข้าปฏิบัติกิจของสงฆ์ภายในวัดได้ตามสิทธิ ตามกฎหมาย สำหรับปัญหาชายชุดดำ จะมีการสอบสวนและดำเนินคดีต่อทุกราย รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุน หรืออยู่เบื้องหลังกรณีดังกล่าว
“บิ๊กโจ๊ก” ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รู้สึกเสียดายโอกาสแทนคนพิจิตร ที่วันนี้ไม่มีใครกล้ามาเยือนที่วัด เนื่องจากกลัวปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาเรื่องทรัพย์สินวัด เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นสมบัติชาติ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเปิดเผยโปร่งใสให้ตรวจสอบ ถ้าหากใครเอาทรัพย์สินเงินทองของวัดไปนอกจากจะพบกับความหายนะก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาอีก
ทั้งนี้ ก่อนที่ “บิ๊กโจ๊ก” จะขึ้น ฮ.เดินทางกลับได้กล่าวทิ้งท้ายกับผู้สื่อข่าวว่า “แล้วผมจะกลับมาที่วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน อีกครั้งอย่างแน่นอน”
