สุรินทร์ - วัดแทบแตกแยกแทบไม่ทัน... พระหนุ่มดวลหมัดกันกลางงานบังสุกุลอัฐิ อุทิศบุญถึงคนตายช่วงสงกรานต์ เผยปมเหตุน่าจะเป็นเพราะพระที่เป็นฝ่ายชกก่อนไม่พอใจพระคู่กรณีมีพรรษาน้อยกว่าแต่ไปนั่งแถวหน้า
ล่าสุดพระทั้งคู่ย้ายออกจากวัดไปแล้ว
จากกรณีที่มีข่าวพระภิกษุสงฆ์ 2 รูปได้ชกต่อยกันต่อหน้าพระสงฆ์และชาวบ้านญาติโยมที่กำลังทำพิธีบังสุกุลอัฐิให้กับคนที่ล่วงลับไปแล้วในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อยู่บริเวณข้างพระอุโบสถวัดโพธิ์ศรีสว่างอารมณ์ ต.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 14 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา จนทำให้หลายคนอยากทราบสาเหตุของการทะเลาะกันระหว่างพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดเดียวกันว่าเกิดจากอะไรกันแน่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดดังกล่าว พบกับ พระกรปพล รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสว่าง เล่าให้ฟังว่า อาตมาก็ได้รับนิมนต์ไปทำพิธีบังสุกุลอัฐิอุทิศส่วนกุศล ให้กับคนตายอยู่บริเวณข้างพระอุโบสถที่ไว้สำหรับเก็บอัฐิของคนตาย ก็ไม่รู้ว่าพระสงฆ์ 2 รูปมีปัญหาเรื่องอะไรกันมาก่อน เพราะอาตมานั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้า เห็นแต่พระภิกษุสงฆ์ 2 รูปชกต่อยกัน จึงเข้าไปถามว่าเรื่องราวเป็นมายังไง
พระกรปพลเล่าต่อว่า ตอนนั้นช่วงบ่ายโมง มีการจัดพิธีบังสุกุล มีญาติโยมมาจากจังหวัดจันทบุรี และนิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมดในวัดไปทำพิธี ในขณะที่ทำพิธี อาตมาก็ไม่สังเกตเท่าไหร่ เพราะอาตมาอยู่หัวแถวสุดคือนั่งเก้าอี้แถวหน้า มีเก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับพระภิกษุสงฆ์ไว้นั่งทำพิธีจำนวน 2 แถว เก้าอี้แถวหน้าจะเต็มหรือแถวหลังน่าจะยังไม่เต็มไม่แน่ใจ แต่พระภิกษุสงฆ์มีเรื่องกันก็ตามที่โยมเห็นในรูปภาพนั่นแหละ เพราะอาตมานั่งอยู่หัวแถวเก้าอี้ พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ใกล้จะรู้ดีว่ามีเรื่องอะไรกัน
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น เป็นที่รับรู้ถึงหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทางวัด ทางอำเภอจอมพระ หลายส่วนโทรศัพท์มาสอบถามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร อาตมาจึงกำลังหาทางปรึกษากับคณะกรรมการวัดเพื่อหาสาเหตุพระชกต่อยกันครั้งนี้ ช่วงที่มีเรื่องราวชกต่อยกันทางชาวบ้าน ญาติโยม พระสงฆ์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็พยายามห้ามกันไม่ให้มีเรื่อง
พระเอกที่อยู่ข้างบนท่านตัวใหญ่กว่า อีกอย่างพระภิกษุสงฆ์ทั้งสองแรงค่อนข้างเยอะก็ห้ามกันแบบทุลักทุเลมาก ทางโยมแม่ของพระเอกก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะโยมแม่ของพระเอกกลัวว่าพระอาจ จะอาฆาตจองเวรจองกรรมมีเรื่องราวกันไม่จบสิ้น จึงไม่ให้มีการแจ้งความดำเนินคดี
อาตมาได้ยินข่าวว่าพระอาจไปลาสิกขาหรือไปลาสึกเป็นสาธุชนอยู่ที่วัดในเมืองสุรินทร์ แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เพราะพระอาจได้ให้พระลูกวัดไปส่งขึ้นรถอยู่หน้าถนนใหญ่เวลาประมาณ 10 โมงกว่าของวันถัดมา
ด้านพระเอก พระสงฆ์ที่ถูกพระอาจชกก่อน เล่าว่า มีโยมเขานิมนต์ให้ไปทำพิธีบังสุกุล ก็จัดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้พระภิกษุสงฆ์นั่งทำพิธี แต่ด้วยเก้าอี้แถวหลังเต็ม จึงมีหลวงพี่รูปหนึ่งบอกว่าเก้าอี้แถวหน้ายังว่างอยู่ 3 ที่ อาตมาจึงลงไปนั่ง แต่แล้วพระอาจที่เป็นคู่กรณี ถามว่าพรรษาที่เท่าไหร่ หมายถึงบวชได้กี่พรรษาแล้ว หลังจากนั้นพระอาจได้ชกต่อยอาตมาก่อนเลย อาตมาก็ชกต่อยสู้กับพระอาจ แต่ไม่สามารถสู้แรงพระอาจได้จึงนอนอยู่ข้างล่าง พระอาจอยู่ข้างบน
ขณะนั้นญาติโยม ชาวบ้าน พระสงฆ์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เข้ามาห้ามกัน ให้แยกย้ายกันไป ซึ่งต้นเหตุของเรื่องราวเกิดจากพระอาจสอบถามกับพระเอกว่าบวชได้กี่พรรษาแล้วถึงมานั่งแถวหน้า จากนั้นก็ชกต่อยก่อนเลย
จากนั้นพระสงฆ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้พาไปดูจุดที่เกิดเหตุ และเล่าเพิ่มเติมว่า พระอาจยกเก้าอี้ขึ้นจะฟาดพระเอก แต่มีพระสงฆ์ และญาติโยม ชาวบ้าน แย่งเก้าอี้พลาสติกที่นั่งออกมาก่อน โชคดีไม่ถูกเก้าอี้ตี อย่างไรก็ตาม พระกรปพล รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสว่างอารมณ์ ได้ให้พระอาจ ที่ก่อเรื่องชกต่อย ออกจากวัดและสึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว